[ใหม่] * ชุดหูฟังแม่ลูก * เปิดเพลงให้ลูกในท้องฟัง เพื่อพัฒนาการที่สมบูรณ์ แม่ลูกฟังเพลงพร้อมกันได้ ต่อกับไอโฟนและมือถือได้ทุกรุ่น พิเศษ แถมซีดีโมสารท 5 แผ่น

562 สัปดาห์ ที่แล้ว - สมุทรปราการ - คนดู 139

750 ฿

  • * ชุดหูฟังแม่ลูก * เปิดเพลงให้ลูกในท้องฟัง เพื่อพัฒนาการที่สมบูรณ์ แม่ลูกฟังเพลงพร้อมกันได้ ต่อกับไอโฟนและมือถือได้ทุกรุ่น พิเศษ แถมซีดีโมสารท 5 แผ่น รูปที่ 1
  • * ชุดหูฟังแม่ลูก * เปิดเพลงให้ลูกในท้องฟัง เพื่อพัฒนาการที่สมบูรณ์ แม่ลูกฟังเพลงพร้อมกันได้ ต่อกับไอโฟนและมือถือได้ทุกรุ่น พิเศษ แถมซีดีโมสารท 5 แผ่น รูปที่ 3
รายละเอียด
หูฟังสำหรับคุณแม่ตั้งครรภ์

หูฟัง ONTO audio-technica / Seamless Headband
หูฟังดีไซน์เก๋ๆ เท่ๆ หลากหลายสีสันสดใส ถูกออกแบบให้มีน้ำหนักเบา และสวมใส่สบาย พร้อมฟังค์ชั่นที่เหมาะสมกับการใช้งาน โดยเฉพาะสำหรับว่าที่คุณแม่ที่กำลังตั้งครรภ์ทารกน้อย ไม่ว่าจะฟังเองหรือเปิดเพลงเพราะๆให้ลูกน้อย 
ตัวที่ครอบหู ด้านในบุด้วยหนังหุ้มฟองน้ำ ให้ความรู้สึกนุ่มนิ่ม สวมใส่สบาย ไม่ทำให้เจ็บหู สามารถขยับเลื่อนเข้าออกเพื่อปรับขนาดความกว้างของสาย Headband ให้กระชับขนาดศรีษะของแต่ละคน ในส่วนของ Headband หรือก้านที่ใช้คาดหัวนั้นทำจากเส้นลวดสีดำอย่างหนาที่มีความคงทนแข็งแรง ไม่หักหรือชำรุดง่าย และมีน้ำหนักเบา ประหยัดเนื้อที่ในการเก็บหรือพกพาไปในที่ต่างๆ
 
 ***ฟังค์ชั่นพิเศษเฉพาะสำหรับคุณแม่ ***
 ตัวที่ครอบหูนั้นสามารถบิดปรับทิศทาง 180 องศาให้อยู่ในแนวราบเช่นเดียวกัน นอกจากคุณประโยชน์ในด้านของการประหยัดเนื้อที่ในการพกพาแล้ว คุณแม่สามารถใช้เปิดเพลงให้ลูกน้อยในครรภ์ฟังได้ด้วย โดยเพียงแค่ทาบหูฟังเข้ากับท้องของคุณแม่ในขณะที่เปิดเพลงอยู่ ลูกน้อยก็จะได้สัมผัสเสียงเพลงที่แสนไพเราะ เป็นการช่วยเสริมสร้างพัฒนาการของการรับรู้ด้วยประสาทสัมผัสทางหู ซึ่งเชื่อกันว่าผลดีอีกอย่างที่จะตามมาก็คือจะช่วยพัฒนาการทางสมองของลูกน้อยในครรภ์ด้วย ด้วยคุณภาพเสียงที่ใส ไพเราะ สมกับขนาดที่กระทัดรัด และระดับความดังที่พอดี ไม่ดังจนเกินไปสำหรับทารกในครรภ์ เหมาะสมอย่างยิ่งที่คุณแม่ควรมีติดตัวไว้เพื่อมอบความสุนทรีย์ให้ตัวเองและทารกในครรภ์ เพื่อมอบสิ่งที่ดีให้ลูกน้อยของคุณตั้งแต่วันนี้
“จากผลการวิจัยของนักวิจัย Dr. Leon Thurman ชาวสหรัฐอเมริกา ซึ่งได้ให้คุณแม่ที่ตั้งครรภ์ได้ฟังเพลงอย่างสม่ำเสมอ เมื่อคลอดทารกออกมา ทารกจะมีพัฒนาการด้านร่างกายและไอคิวสูงกว่าทารกที่ไม่ได้ฟังเพลง แต่การวิจัยของ Dr. Leon Thurman นี้ไม่ได้ระบุว่าต้องเป็นเพลงคลาสสิคเท่านั้นนะค่ะ และยังมีผลการวิจัยของ Dr. Thomas R. Verny ซึ่งเป็นจิตแพทย์จากมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ดประเทศสหรัฐอเมริกา และยังเป็นประธานสมาคมเกี่ยวกับการเสริมสร้างพัฒนาการเด็กในสหรัฐอเมริกาอีกด้วย ท่านได้ทดลองให้คุณแม่ได้ร้องเพลงกล่อมเด็กขณะที่ยังตั้งครรภ์อยู่ทุกๆ วัน เมื่อคลอดออกมาหากร้องไห้หรืองอแง แต่เมื่อทารกได้ยินเสียงเพลงกล่อมเด็กของแม่ที่แม่เคยร้องให้ฟังตั้งแต่สมัยตั้งครรภ์ ทารกจะนิ่งสงบลงและสนใจในเสียงเพลงกล่อมเด็กอย่างน่าอัศจรรย์” 
“ช่วงตั้งแต่อายุครรภ์ 5 เดือนเป็นต้นไปและควรจะเป็นช่วงเวลาที่คุณแม่ได้พักสบายๆ ไม่เร่งรีบอะไร อาจจะเป็นช่วงเย็นๆ หลังอาหารเย็นก็ได้ หรือดูจากอาการของลูกว่าลูกตื่นตัวพร้อมจะรับฟังดนตรีหรือไม่ โดยสังเกตได้จากการดิ้นของลูก หากลูกดิ้นแสดงว่าลูกยังไม่หลับค่ะ เปิดเพลงหรือร้องเพลงกล่อมเด็กให้ลูกในท้องฟังครั้งละประมาณ 10-15 นาทีก็พอแล้วค่ะ ไม่จำเป็นต้องเปิดทั้งวันทั้งคืนนะค่ะ และควรจะเปิดหรือร้องเพลงเดิมๆ เพื่อให้ลูกได้จดจำทำนองค่ะ”

อ้างอิงจาก http://babytrick.com/pregnancy-period-tip/baby-listen-classical-music-effect.html
++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
 
ซีดีเพลงโมสาร์ตสำหรับคุณแม่และลูกน้อยแบบครบชุด 5 แผ่นชุดนี้ ใช้ได้ตั้งแต่ตอนคุณแม่ตั้งครรภ์ ตอนหลังคลอด และสามารถเปิดให้น้องฟังได้ถึงอายุ 6 ขวบเลยค่ะ ชุดนี้ครอบคลุมและคุ้มค่ามากๆ เลยนะคะ

ซีดีเพลงโมสาร์ตสำหรับคุณแม่และลูกน้อยแบบครบชุด 5 แผ่น ประกอบด้วย
แผ่นที่ 1 ดนตรีสำหรับคุณแม่ตั้งครรภ์
แผ่นที่ 2 ดนตรีสำหรับทารกแรกเกิด
แผ่นที่ 3 ดนตรีสำหรับเล่นสนุกหลับสบาย
แผ่นที่ 4 ดนตรีสำหรับกล่อมนอน
แผ่นที่ 5 ดนตรีเพื่อความเพลิดเพลินในการเล่น 

ประสาทสัมผัสที่พัฒนาก่อน คือระบบการได้ยิน

เมื่อทารกอยู่ในครรภ์มารดาได้ประมาณ 5 เดือน ระบบการได้ยินจะเริ่มก่อรูปร่าง และจะเริ่มทำหน้าที่เมื่อเด็กอายุได้ประมาณ 7 เดือน การได้ยินเสียงแม่พ่อพูดคุยด้วย การได้ยินเสียงดนตรีที่มีความถี่ของเสียงสูงๆ (เสียงแหลม) จะช่วยกระตุ้นการก่อรูปวงจรการได้ยินของเด็กให้มีคุณภาพและประสิทธิภาพมากขึ้น แม้เด็กที่อยู่ในครรภ์มารดาจะยังไม่เข้าใจความหมายของเพลงกล่อมที่แม่ร้องให้ฟัง คำพูดที่แม่พูดด้วย หรือแม้แต่เพลงที่แม่เปิดให้ฟัง แต่เด็กจะรับรู้ถึงความรู้สึกที่ถ่ายทอดผ่านสิ่งเหล่านี้ได้ นี่คือพัฒนาการของวงจรทางอารมณ์ที่เริ่มก่อรูปขึ้นมาผ่านวงจรของการได้ยิน

การได้ยินที่สมบูรณ์นำมาสู่การพูดที่ชัดเจน
เราคงเคยได้ยินคำพูดที่ว่า คนหูหนวกมักจะเป็นใบ้ เนื่องจากการพูดและภาษาเป็นเรื่องของการเรียนรู้ คนที่มีปัญหาการได้ยินจะไม่ได้ยินว่าเขาพูดออกเสียงกันอย่างไร ดังนั้นจึงพูดไม่ได้ นอกจากเสียงพูดของพ่อแม่ และคนใกล้ชิดที่จะกระตุ้นการได้ยินของเด็กแล้ว ดนตรีเป็นอีกสิ่งหนึ่งที่กระตุ้นการได้ยินในเด็กได้ดี เพราะมีความถี่ของเสียงกว้างหลากหลาย สามารถกระตุ้นการได้ยินได้ทุกย่านความถี่ (การได้ยินของมนุษย์อยู่ที่ย่านความถี่ 20 - 20,000 เฮิร์ต) ทำให้สมองเด็กพัฒนาระบบการได้ยินอย่างสมบูรณ์ ซึ่งจะเป็นผลดีต่อพัฒนาการทางภาษาในภายหลัง

อ้างอิงจาก หนังสือดนตรีโมสาร์ต สำหรับคุณแม่และลูกน้อย หน้า 5-6

“จากผลการวิจัยของนักวิจัย Dr. Leon Thurman ชาวสหรัฐอเมริกา ซึ่งได้ให้คุณแม่ที่ตั้งครรภ์ได้ฟังเพลงอย่างสม่ำเสมอ เมื่อคลอดทารกออกมา ทารกจะมีพัฒนาการด้านร่างกายและไอคิวสูงกว่าทารกที่ไม่ได้ฟังเพลง แต่การวิจัยของ Dr. Leon Thurman นี้ไม่ได้ระบุว่าต้องเป็นเพลงคลาสสิคเท่านั้นนะค่ะ และยังมีผลการวิจัยของ Dr. Thomas R. Verny ซึ่งเป็นจิตแพทย์จากมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ดประเทศสหรัฐอเมริกา และยังเป็นประธานสมาคมเกี่ยวกับการเสริมสร้างพัฒนาการเด็กในสหรัฐอเมริกาอีกด้วย ท่านได้ทดลองให้คุณแม่ได้ร้องเพลงกล่อมเด็กขณะที่ยังตั้งครรภ์อยู่ทุกๆ วัน เมื่อคลอดออกมาหากร้องไห้หรืองอแง แต่เมื่อทารกได้ยินเสียงเพลงกล่อมเด็กของแม่ที่แม่เคยร้องให้ฟังตั้งแต่สมัยตั้งครรภ์ ทารกจะนิ่งสงบลงและสนใจในเสียงเพลงกล่อมเด็กอย่างน่าอัศจรรย์” 

“ช่วงตั้งแต่อายุครรภ์ 5 เดือนเป็นต้นไปและควรจะเป็นช่วงเวลาที่คุณแม่ได้พักสบายๆ ไม่เร่งรีบอะไร อาจจะเป็นช่วงเย็นๆ หลังอาหารเย็นก็ได้ หรือดูจากอาการของลูกว่าลูกตื่นตัวพร้อมจะรับฟังดนตรีหรือไม่ โดยสังเกตได้จากการดิ้นของลูก หากลูกดิ้นแสดงว่าลูกยังไม่หลับค่ะ เปิดเพลงหรือร้องเพลงกล่อมเด็กให้ลูกในท้องฟังครั้งละประมาณ 10-15 นาทีก็พอแล้วค่ะ ไม่จำเป็นต้องเปิดทั้งวันทั้งคืนนะค่ะ และควรจะเปิดหรือร้องเพลงเดิมๆ เพื่อให้ลูกได้จดจำทำนองค่ะ”
 
อ้างอิงจาก http://babytrick.com/pregnancy-period-tip/baby-listen-classical-music-effect.html