[ใหม่] เสริมจมูกด๊อกเตอร์แคร์ขอนแก่น
รายละเอียด
แล้วทำไมการทำศัลยกรรมจมูก(rhinoplasty) จึงมีบทบาทสำคัญมากในการเปลี่ยนโครงสร้างของหน้า?
จมูกเป็นอวัยวะที่ตั้งอยู่ตรงกลางของใบหน้า อาจจัดได้ว่าเป็นประธานของหน้า เพราะเป็นจุดที่เด่นที่สุด หากจมูกได้รูปสวย ไม่วาจะมองจากหน้าด้านตรงหรือหน้าด้านข้าง เท่ากับเรามีชัยไปกว่าครึ่ง เพราะเป็นส่วนที่ตั้งอยู่ตรงกลางที่สุด เชื้อชาติมีความสำคัญในการกำหนดความโด่งของสันจมูก มากกว่าร้อยละ 70 ของคนไทยมีปัญหาเรื่องความโด่งของสันจมูก เพราะสันจมูกในคนเอเชียมักจะต่ำและแบนราบ จึงทำให้ใบหน้าเมื่อมองจากด้านหน้าจะมีลักษณะหัก และแลดูตาห่างจากกัน ซึ่งจะต่างกับคนเชื้อสาย caucacian ได้แก่ ฝรั่งชาติต่างๆ จะมีสันกระดูกจมูกที่สูง จนบางรายอาจสูงเกินไป ปัญหาเรื่องจมูกของคนไทยและต่างชาติจึงต่างกัน ความชำนาญในการแก้ปัญหาระหว่างศัลยแพทย์ไทยและศัลยแพทย์ต่างชาติจึงต่างกัน
องค์ประกอบของจมูกควรเป็นอย่างไร จึงจะจัดได้ว่าเป็นจมูกที่ได้รูป?
|
เพราะฉะนั้น องค์ประกอบของจมูกทั้ง 2 ส่วนจึงเป็นส่วนเสริมซึ่งกันและกัน ในความเข้าใจของคนทั่วไปมักคิดว่า การเสริมจมูกคือการทำให้มีสันจมูกโด่งขึ้นก็น่าจะเพียงพอที่จะทำให้แลดูสวยขึ้นแล้ว ในความเป็นจริง การมีสันจมูกที่โด่งอย่างเดียว หรือการมีส่วนปลายจมูกที่สวยได้รูปเพียงอย่างเดียวยังไม่อาจทำให้จมูกนั้นดูสวยสมบูรณ์แบบได้ หน้าที่ของศัลยแพทย์ตกแต่งที่มีความชำนาญจึงต้องประเมินทั้ง 2 ส่วนนี้ และปรับปรุงแก้ไขให้เสริมรับกัน ความยากง่ายในการทำ เวลาในการทำ ความสวยงามของจมูกที่ออกมามักจะขึ้นกับการตกแต่งในส่วนเนื้อเยื่อ (soft tissue part) เป็นสำคัญ ศัลยแพทย์ตกแต่งที่มีความสามารถและความชำนาญจึงจะสามารถแก้ปัญหาในส่วนของเนื้อเยื่อ (soft tissue part) เพราะเป็นส่วนที่ตกแต่งได้ยากกว่า
แล้วเราจะทราบได้อย่างไรว่าศัลยแพทย์ตกแต่งท่านใดมีความชำนาญในเรื่องเสริมและตกแต่งจมูก?
สิ่งที่สำคัญ คือ การได้มีโอกาสปรึกษาและพูดคุยกับแพทย์ก่อนการตัดสินใจ การได้สอบถามรายละเอียดและความเป็นไปได้ในการตกแต่ง รวมทั้งผลที่ควรจะเป็นหลังการผ่าตัดแล้วเป็นหัวใจที่สำคัญ เพราะแต่ละคนก็มีความแตกต่างกันทั้งในเรื่องรายละเอียดของจมูกและรายละเอียดในเรื่องของโครงหน้าโดยรวมทั้งหมด การตกแต่งจมูกไม่เพียงแต่จะตกแต่งให้จมูกดีขึ้น แต่ยังต้องเข้าได้กับโครงหน้าโดยรวมอีกด้วย ยกตัวอย่างเช่น ในบางคนอาจมีคางที่สั้นหรือมีมุมคางที่หลบเข้าด้านใน บางครั้งศัลยแพทย์อาจแนะนำให้ต้องเสริมคางด้วย mentoplasty ศัลยแพทย์ตกแต่งที่มีความชำนาญจะช่วยวิเคราะห์และแนะนำท่านได้ การได้มีโอกาสดูผลงานของแพทย์ท่านนั้นก็จะทำให้ท่านพอทราบสไตล์การดีไซน์ของแพทย์ท่านนั้นได้ในระดับหนึ่ง ซึ่งจะทำให้น้ำหนักในการเลือกแพทย์ที่จะทำการผ่าตัดให้ท่านมีมากขึ้น อย่างไรก็ตาม หากท่านเคยประสบอุบัติเหตุบริเวณจมูกและใบหน้า ท่านควรเล่าให้แพทย์ฟังโดยละเอียด หรือหากท่านเคยทำการผ่าตัดเสริมแต่งจมูกมาแล้วกี่ครั้ง แล้วเหตุผลที่จำเป็นต้องแก้ไขคืออะไร ท่านควรให้รายละเอียดกับแพทย์ให้มากที่สุดเท่าที่ท่านจะให้ได้
การเสริมแต่งจมูกจะทำอย่างไร และวัสดุที่ใช้ในปัจจุบันคืออะไร?
การเสริมแต่งจมูกอาจทำภายใต้การดมยาสลบ (general anesthesia) หรือ การให้ยาชาเฉพาะที่ (local anesthesia) ขึ้นอยู่กับว่า คุณจำเป็นต้องได้รับการตกแต่งมากน้อยแค่ไหน หากตกแต่งมากก็จะต้องใช้เวลานานมาก ซึ่งการใช้ยาชาเฉพาะที่อาจจะไม่เพียงพอ แพทย์จะเปิดแผลเล็กๆประมาณ 1 ซม. ที่รูจมูกด้านในตรงบริเวณก้นย้อยของจมูก และเปิดช่องเข้าไปโดยช่องนั้นจะอยู่ระหว่างกระดูกของจมูกและเนื้อเยื่อผิวหนัง การใส่แกน, การตกแต่งเนื้อเยื่อจมูกให้เล็กลงทำได้โดยผ่านช่องนี้ วัสดุที่ใช้ในปัจจุบันยังคงเป็นซิลิโคนที่เป็น solid stage (เป็นซิลิโคนที่อยู่ในสถานะของแข็ง) ซิลิโคนเป็นวัสดุสังเคราะห์ที่ใช้ในการเสริมจมูกมานานแล้ว และขณะนี้ก็ยังเป็นที่นิยมอยู่ เพราะซิลิโคนมีปฏิกิริยากับเนื้อเยื่อค่อนข้างน้อย จึงสามารถอยู่กับเนื้อเยื่อจมูกได้นานโดยไม่มีการเสื่อมสลาย และไม่จำเป็นต้องมาถอดซิลิโคนออกเพื่อเปลี่ยนซิลิโคนอันใหม่ทุกๆกี่ปี และแกนจมูกนี้จะอยู่กับเราตลอดไป ซิลิโคนมีความอ่อนแข็งหรือนิ่มหลายระดับ ขึ้นอยู่กับศัลยแพทย์ตกแต่งจะเป็นผู้พิจารณาใช้ชนิดใด
การตัดปีกจมูก(alar dissection) ตัดเพื่ออะไร และวิธีการที่ใช้ในปัจจุบันคืออะไร?
ปีกจมูก คือ ส่วนที่เป็นกระดูกอ่อน (cartilage) ของจมูกและกางออกมาเป็นปีก 2 ข้าง ประกอบเป็นส่วนหลังคาของรูจมูก ในบางคนที่ปีกจมูกกว้างเกินไปก็จำเป็นที่จะต้องตัดและตกแต่งใหม่เพื่อให้ได้สัดส่วนที่สวยงาม การตัดปีกจมูกออกมากน้อยเพียงใด นอกจากจะคำนึงถึงความสวยงามแล้ว ยังต้องคำนึงถึงความสะดวกในการหายใจด้วย เพราะการตัดปีกจมูกออกมากเกินไปจะทำให้รูจมูกเล็กลงมากจนทำให้หายใจได้ลำบาก วิธีการตัดปีกจมูกอาจทำได้ 2 วิธี คือ การตัดจากภายในรูจมูก วิธีนี้จะค่อนข้างยากสำหรับศัลยแพทย์ แต่มีข้อดี คือ จะไม่เห็นรอยแผลเป็น อีกวิธีคือ การตัดที่ภายนอกปีกจมูก วิธีนี้สะดวกในการทำ แต่คนไข้จำเป็นต้องดูแลแผลให้ดีเพื่อหลีกเลี่ยงแผลเป็นในระยะยาว การตัดปีกจากภายในหรือภายนอกขึ้นอยู่กับดุลพินิจของแพทย์ คุณควรปรึกษาแพทย์เพื่อเลือกวิธีที่เหมาะสม
อายุเท่าใดจึงทำการเสริมจมูกได้?
ในแต่ละประเทศก็มีมาตรฐานการกำหนดอายุที่ไม่เท่ากัน การเจริญเติบโตเต็มที่ของเด็กที่จะก้าวสู่ผู้ใหญ่ได้เต็มตัวขึ้นอยู่กับชาติพันธุ์ พันธุกรรม อาหาร ฯลฯ ซึ่งจะแตกต่างกันไป แต่โดยรวมแล้ว ควรทำในอายุที่มากกว่า 18 ปีในผู้หญิง และมากกว่า 19 ปีในผู้ชาย เพราะในช่วงวัยนี้ การเจริญเติบโตของจมูกน่าจะเต็มที่แล้ว
ใช้เวลาในการผ่าตัดนานเท่าใด และจำเป็นต้องนอนในโรงพยาบาลหรือไม่?
เวลาในการผ่าตัดเสริมจมูกแต่ละคนมาเท่ากัน ขึ้นอยู่กับความยากง่าย การตกแต่งมากน้อยเพียงใด ระยะเวลาจะอยู่ประมาณ 1-3 ชม. 99%ของผู้รับการผ่าตัดไม่จำเป็นต้องนอนพักรักษาตัวในโรงพยาบาล
จะเจ็บมากแค่ไหนหลังการผ่าตัดเสริมจมูก?
เป็นที่น่าแปลกใจว่า การผ่าตัดเสริมและตกแต่งจมูกไม่ก่อให้เกิดความเจ็บปวดมากนัก คนไข้ส่วนใหญ่จะใช้เพียงยาแก้ปวดธรรมดาเท่านั้น
หลังการผ่าตัดจะมีอาการอย่างไร และจะปฏิบัติตัวอย่างไร?
หลังการผ่าตัด 24-48 ชม. แรกจำเป็นต้องนอนศรีษะสูงและประคบด้วยความเย็นเพื่อลดความบวมบริเวณจมูก หลังจาก 48 ชม.ไปแล้ว จะเปลี่ยนเป็นการประคบด้วยน้ำอุ่นแทน การบวมจะมากที่สุดใน 72 ชม.แรก หลังจากนั้นก็จะค่อยๆยุบลงภายใน 7-10 วัน โดยส่วนใหญ่เมื่อความบวมลดลงแล้ว ผิวบริเวณจมูกจะเปลี่ยนให้เห็นเป็นสีม่วง, สีเขียวและสีเหลืองตามลำดับ และหายไปในที่สุด การบวมมากหรือน้อย และการยุบบวมช้าหรือเร็วขึ้นอยู่กับการทำผ่าตัดว่า แพทย์ได้แก้ไขให้มากน้อยเท่าใด โดยมากแพทย์จะนัดตัดไหมที่เย็บไว้ที่จมูกประมาณ 7 วันหลังการผ่าตัด อย่างไรก็ตาม คนไข้ที่ไม่ได้ทำการแก้ไขมากนักก็มักจะยุบบวมเร็ว และเริ่มเข้าที่ที่ระยะประมาณ 1-3 เดือน และจะยุบเกือบ 100 % ที่ระยะประมาณ 3 เดือน การยุบบวมดังกล่าวเป็นการประมาณการณ์ของคนส่วนใหญ่ ซึ่งท่านอาจจะยุบบวมเร็วหรือช้ากว่านี้ก็ได้ ควรหลีกเลี่ยงการออกกำลังกายที่หักโหม หลีกเลี่ยงการถูกกระแทกบริเวณจมูก ในช่วงเดือนแรกๆ การปฏิบัติตัวหลังการผ่าตัดเป็นสิ่งที่ท่านจะต้องใส่ใจ เพราะท่านจะได้รับคำแนะนำที่เฉพาะตัว และอาจต้องมีการดูแลที่พิเศษแตกต่างไปจากผู้อื่น
ผลในระยะยาวหลังการผ่าตัดจะเป็นอย่างไรในคนไข้ส่วนใหญ่ หากจำเป็นต้องแก้ไขใหม่ ระยะเวลาใดเหมาะสมที่สุด?
คนส่วนใหญ่มักจะคาดหวังให้จมูกสวยเข้าที่อย่างรวดเร็วในเวลาอันสั้น แต่ตามธรรมชาติของการยุบบวมและการเข้าที่ของระบบเนื้อเยื่อ หลอดเลือดและระบบน้ำเหลืองของเนื้อเยื่อที่ได้รับการผ่าตัด จะต้องใช้เวลาอย่างน้อย 3 เดือนหรือนานกว่านั้น การจะเห็นรูปทรงของจมูกเข้าที่สวยงามจึงควรจะอยู่ในระยะเวลาที่เกิน 6 เดือนไปแล้ว หรือในบางคนที่ได้รับการตกแต่งแก้ไขมากอาจจะเข้าที่ที่ประมาณ 1 ปี หากจำเป็นต้องมีการแก้ไขใหม่ ระยะเวลาที่เหมาะสม คือ พ้นจาก 6 เดือนไปแล้วในคนไข้ที่ผ่าตัดตกแต่งไม่มากนัก และพ้น 1 ปีไปแล้ว ในคนไข้ที่ผ่าตัดตกแต่งแก้ไขเนื้อเยื่อจมูก (soft tissue),ในคนไข้ที่เป็นจมูกแก้ไขที่เคยทำมาแล้วจากที่อื่น,และในคนไข้ที่เคยฉีดวัสดุแปลกปลอมมา เรามักพบว่า คนไข้ส่วนใหญ่ที่ใจร้อนและขาดการรอคอยมักจะรบเร้าให้แพทย์ทำการผ่าตัดแก้ไขใหม่ก่อนเวลาอันสมควร ซึ่งผลของการผ่าตัดแก้ไขใหม่นั้นอาจทำให้ยิ่งแย่ไปกว่าเดิมและเป็นปัญหาที่แก้ไขได้ยากยิ่งขึ้นเรื่อยๆ การแก้ไขในเวลาที่เหมาะสมน่าอยู่ในดุลพินิจของแพทย์
หากเคยทำจมูกมาแล้วจากที่อื่น หรือเคยฉีดวัสดุแปลกปลอมเข้าไปในจมูก จะทำการแก้ไขได้หรือไม่?
ทั้ง 2 กรณีนี้จัดเป็นงานแก้ไจจมูกทั้งสิ้น ในกรณีที่เคยทำมาแล้ว แพทย์จะดูความเหมาะสมว่าจะแก้ไขให้ได้มากน้อยเพียงใด เนื่องจากศัลยแพทย์ตกแต่งท่านนั้นไม่เคยเห็นโครงสร้างเดิมของท่านมาก่อน การแก้ไขจึงเป็นงานที่ยากขึ้นมาอีกระดับหนึ่ง เพราะการเลาะพังผืดเก่าออกนั้นใช้เวลาในการเลาะค่อนข้างนาน อีกทั้งผลลัพธ์ที่ออกมาอาจไม่ได้ดังที่ควรจะเป็น สำหรับการฉีดวัสดุแปลกปลอมเข้าไปในจมูกนั้น การแก้ไขก็จะยิ่งยากมากขึ้น วัสดุที่คนไข้ได้รับการฉีดมานั้นมักเป็นซิลิโคนเหลวซึ่งค่อนข้างอันตราย เพราะซิลิโคนเหลวจะเข้าไปจับกับเนื้อเยื่อของจมูกและก่อตัวให้เกิดเป็นพังผืดขึ้น ในเวลาต่อมา บางท่านอาจมีการบวมแดง อักเสบ หรือในบางท่าน เนื้อเยื่ออาจจับตัวกันเป็นกลุ่มๆ ทำให้ผิวของจมูกไม่เรียบเป็นตะปุ่มตะป่ำ การเลาะซิลิโคนที่จับตัวกับเนื้อเยื่อแล้วนั้นจะค่อนข้างยากเพราะอยู่ปะปนกันไปหมด ทำให้ยากต่อการเอาซิลิโคนออกให้หมด ผลลัพธ์จากการแก้ไขอาจไม่ได้ดั่งที่คาดหวัง และระยะเวลาในการยุบบวมและการเข้าที่จะเนิ่นนานขึ้น คนไข้ที่เข้ารับการแก้ไขจึงต้องลดความคาดหวังลง และยอมรับในข้อจำกัดของการทำศัลยกรรม หากท่านเป็นคนไข้ในกลุ่มนี้ ก่อนการตัดสินใจ ท่านควรปรึกษาแพทย์และทำความเข้าใจกับผลลัพธ์ที่อาจจะเกิดขึ้นได้ และผลลัพธ์นั้นไม่สามารถเป็นไปอย่างที่ท่านต้องการได้ทั้งหมด
การฉีดสารบางตัว เช่น filler เข้าไปเพื่อเสริมให้จมูกโด่งแทนการทำศัลยกรรมได้หรือไม่?
ขนาดนี้ในท้องตลาดทั่วไปมีวัสดุที่เรียกว่า filler ใช้ในการฉีดเสริมในส่วนต่างๆของผิวหนัง เช่น ฉีดเพื่อรักษาหลุมสิว ฉีดเพื่อรักษาริ้วรอยบริเวณตีนกาและหน้าผาก ฉีดเพื่อเติมเต็มบริเวณร่องแก้ม และ filler บางตัวมีคนใช้เพื่อฉีดเสริมจมูกให้โด่ง วัสดุเหล่านี้มีราคาแพง บางชนิดอยู่ในร่างกายได้เพียง 6 เดือนก็จะสลายไป บางบริษัทแจ้งว่า filler ของบริษัทของเขาเมื่อฉีดเข้าไปแล้วจะอยู่ได้นานถึง 2 ปี ซึ่งหมายความว่า ถ้าท่านใช้ filler ชนิดนี้ฉีดเพื่อเสริมจมูก อีก 2 ปีข้างหน้า ท่านก็ต้องฉีดใหม่ เมื่อคำนวณค่าใช้จ่ายของการฉีด filler เหล่านี้โดยต้องฉีดซ้ำไปเรื่อยๆเพื่อให้คงความโด่งของจมูกไว้ การผ่าตัดเสริมจมูกยังคงมีราคาถูกกว่ามาก เพราะท่านจะลงทุนเพียงครั้งเดียว แต่อยู่ได้ตลอดไป
หลุมพราง (pitfall) ที่พบบ่อยในการทำศัลยกรรมจมูกคืออะไร?
หลุมพรางที่พบบ่อยในคนไข้ที่มาทำศัลยกรรมจมูก ได้แก่
- คนไข้มีความคาดหวังกับผลที่จะได้เกินความเป็นจริง ดังที่กล่าวแล้วในหัวข้อต้นๆ เพราะพื้นฐานของจมูกที่ไม่เท่ากัน ผลลัพธ์ที่ได้อาจจะไม่เหมือนกัน ท่านจึงต้องปรึกษาและทำความเข้าใจข้อจำกัดทั้งในตัวท่านเองและข้อจำกัดทางด้านการแพทย์
- คนไข้มักต้องการให้จมูกยุบบวมและสวยอย่างรวดเร็วโดยไม่เข้าใจว่าธรรมชาติของการยุบบวมของเนื้อเยื่อนั้นต้องการระยะเวลาหนึ่ง หากจะทำการแก้ไขก็ต้องเป็นระยะเวลาที่เหมาะสมกับการยุบบวมของเนื้อเยื่อด้วย การแก้ไขก่อนเวลาอันควรจะเป็นผลเสียมากกว่าผลดี
- คนไข้มักฉีดสารบางตัวเข้าไปที่จมูก หากได้รับการฉีดจากแพทย์หรือไม่ใช่แพทย์โดยไม่ทราบว่าสารชนิดนั้นคืออะไร เมื่อคนไข้มาพบศัลยแพทย์ก็มักจะคาดหวังการขูดเอาสารตัวนั้นออกจากเนื้อเยื่อของจมูกควรจะเอาออกได้หมด ในความเป็นจริง ศัลยแพทย์อาจไม่สามารถเอาออกได้หมดแม้จะต้องมีการเปิดเข้าไปในช่องจมูกเพื่อขูดออกหลายครั้งก็ตาม
- ในบางท่านมักใช้คอมพิวเตอร์ตกแต่งภาพจมูกของตนเอง และคาดหวังว่าจะได้ตรงตามภาพนั้น ในความเป็นจริง คอมพิวเตอร์เป็นเพียงการสร้างภาพอิมเมจเท่านั้น คอมพิวเตอร์ไม่สามารถวิเคราะห์ไปถึงโครงสร้างกระดูก วิเคราะห์ลักษณะความหนาบางของเนื้อเยื่อจมูก และวิเคราะห์ชนิดและความยืดหยุ่นของผิวหนังซึ่งทั้งหมดเป็นเรื่องสำคัญมากที่สุดในการทำศัลยกรรมตกแต่งจมูก แพทย์อาจไม่สามารถจะทำตามอิมเมจซึ่งคอมพิวเตอร์สร้างขึ้นมาได้
ก่อนการตัดสินใจควรทำอะไรบ้าง?
ก่อนการตัดสินใจท่านควรจะ
- หาข้อมูลและศึกษาให้เข้าใจถึงผลดีและผลเสียที่อาจมี เปรียบเทียบผลดีผลเสียนั้น หากมีผลเสียจะเกิดอะไรได้บ้าง และท่านรับได้มากแค่ไหน
- ปรึกษาศัลยแพทย์ที่ท่านมั่นใจ คุยกับแพทย์ในรายละเอียด ข้อจำกัดของการผ่าตัดในกรณีของท่านคืออะไร โรคประจำตัวคืออะไร รับประทานยาอะไรเป็นประจำหรือไม่ เคยผ่าตัดมาก่อนแล้วหรือไม่ ถ้าเคย ผ่ามาแล้วกี่ครั้ง เคยฉีดสารแปลกปลอมมาหรือไม่
- มั่นใจว่าท่านสามารถทำตามคำแนะนำของแพทย์ในการดูแลตนเองหลังการผ่าตัดได้อย่างเคร่งครัด
- หาคนมาเป็นเพื่อนและพาท่านกลับบ้านได้หลังการผ่าตัดเสร็จสิ้นแล้ว
ตัวอย่างการทำจมูกแบบต่างๆ