[ใหม่] มัชรูมพลัส Mushroom Plus เครื่องดื่มน้ำเห็ด สมุนไพรเพื่อสุขภาพ จัดส่ง EMS ฟรี
1,000 ฿
รายละเอียด
Mushroom Plus
เครื่องดื่มน้ำเห็ดเพื่อสุขภาพ
1 ขวด ราคาพิเศษ 1,000 บาท
2 ขวด ราคาพิเศษ 1,900 บาท
3 ขวด ราคาพิเศษ 2,800 บาท
4 ขวด ราคาพิเศษ 3,700 บาท
6 ขวด ราคาพิเศษ 5,400 บาท
จัดส่ง EMS ฟรี
ดูรายละเอียดได้ที่ web site http://nampetch999.com
เครื่องดื่มน้ำเห็ดเพื่อสุขภาพนี้ มีสรรพคุณในการบำรุงร่างกาย บำรุงกำลัง ล้างพิษ บรรเทาอาการเจ็บป่วยจากโรคภัยต่างๆ เช่น โรคความดัน โรคเบาหวาน โรคมะเร็งชนิดต่างๆ โรคริดสีดวงทวาร และโรคที่เกิดจากการเสื่อมถอยของอวัยวะต่างๆของร่างกาย ช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันจากโรคและช่วยปรับระบบขับถ่ายให้ดีขึ้น
วิธีเก็บรักษา :
เก็บไว้ในที่แห้ง และเย็น ในอุณหภูมิ 35 องศาเซลเซียส (อุณหภูมิห้อง) ระวังไม่ให้ถูกแสงแดด และปิดฝาขวดให้แน่นอยู่เสมอ
วิธีรับประทาน :
ควรทานก่อนอาหารเช้า และก่อนนอน วันละ 2 ครั้งๆ ละ 30 cc. และดื่มน้ำอุ่นตาม
คำเตือน :
เด็กและสตรีมีครรภ์ไม่ควรรับประทาน
ส่วนประกอบที่สำคัญ
น้ำ Water 85.000 %
น้ำลูกพลัม Plum Juice 8.975 %
น้ำตาล Sugar 5.000 %
ถั่งเช่า Cordyceps 0.500 %
เห็ดหลินจือ Ganoderma 0.375 %
ทอรีน Taurine 0.150 %
เลขที่ อย. 10-3-21149-1-0003
ผลิตโดย :
บริษัท กลอรี่ ไบโอเทค จำกัด ประเทศไต้หวัน
จัดจำหน่ายโดย :
บริษัทไทยเฮลท์ จำกัด
35/530 หมู่ที่1 ถนนเลียบคลองภาษีเจริญฝั่งเหนือ แขวงหนองแขม เขตหนองแขม กรุงเทพมหานคร 10160
วิธีรับประทานน้ำเห็ดเพื่อสุขภาพ
1. รับประทานวันละ 2 ครั้ง ครั้งละ 30 cc ก่อนอาหารและก่อนนอน และดื่มน้ำตามมากๆ จะช่วยนำพาสารอาหารในน้ำเห็ด ส่งไปหล่อเลี้ยง และซ่อมแซมส่วนต่างๆ ของร่างกาย ช่วยฟื้นฟูเซลล์ที่เสื่อมสภาพ ให้กลับมาแข็งแรง คืนความเป็นหนุ่ม เป็นสาว สดชื่นมากขึ้นตลอดทั้งวัน
2. ควรทานก่อนอาหาร ประมาณหนึ่งชั่วโมง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงเช้า หลังตื่นนอน จะทำให้ร่างกายได้รับสารอาหารที่มีคุณค่ามากมาย และทำให้รู้สึกสดชื่นไปตลอดทั้งวัน การทานน้ำเห็ดสกัดก่อนอาหาร จะช่วยให้ร่างกายสามารถดูดซึมสารอาหารต่างๆได้โดยตรง 100% อย่างเต็มประสิทธิภาพ
3. เมื่อเปิดขวดน้ำเห็ดครั้งแรกแล้ว ควรเก็บไว้ในตู้เย็นเพื่อรักษาคุณภาพของน้ำเห็นสกัด
4. ในกรณีของผู้ที่เป็นโรคเบาหวานและโรคกระเพาะ ควรทานน้ำเห็ดสกัดหลังอาหาร และดื่มน้ำอุ่น หรือน้ำอุณหภูมิปกติตาม 2-3 แก้ว
5. สำหรับผู้สูงอายุที่มีอาการปวดข้อ เจ็บเข่า ข้อเข่าเสื่อม ชาตามปลายมือ ปลายเท้า ปวดหลัง ปวดเอว ปวดคอ ปวดหัว ไม่มีแรง หอบ เหนื่อยง่าย หรือทานข้าวไม่ได้ ในช่วงแรกที่ทานน้ำเห็ด ท่านจะมีอาการเจ็บปวดในบริเวณดังกล่าวเพิ่มมากขึ้น เป็นอาการตอบรับที่ดี ที่ร่างกายบอกตัวเราว่า เราทานอาหารเสริมถูกกับตัวของเราแล้ว อาการดังกล่าวเกิดจากการปรับร่างกายในช่วงแรก เมื่อทานต่อเนื่อง อาการดังกล่าวจะเริ่มดีขึ้นเรื่อยๆในระยะเวลา 2-3 สัปดาห์
6. การล้างสารพิษในร่างกาย สำหรับบางคนที่เริ่มทานในครั้งแรก ให้สังเกตุอาการของร่างกายเรา ว่ามีอาการตอบรับจากการทานอาหารเสริมหรือเปล่า เ่ช่น ปวดท้อง รู้สึกไม่สบายท้อง ปวดเมื่อยหลัง ปวดเข่า ปวดข้อ ปวดศีรษะ ปวดตามกล้ามเนื้อ หรือมีผื่นขึ้น อาการเหล่านี้ เรียกว่า วิกฤตบำบัด หรือการล้างสารพิษในร่างกาย สารอาหารที่ดีต่างๆ กำลังทำงานซ่อมแซมอวัยวะที่เจ็บป่วยอยู่ให้กลับมาแข็งแรงขึ้น อาการเหล่านี้ จะค่อยๆน้อยลง และัหายขาดภายใน 3 สัปดาห์
7.ข้อแนะนำ ควรทานยาที่แพทย์สั่งเป็นหลัก และควรทานน้ำเห็ดควบคู่ไปด้วยโดยไม่ก่อให้เกิดอันตรายแต่อย่างใด
8.คนเรามีปัญหาสุขภาพร่างกาย และโรคภัยมากน้อยแตกต่างกัน ย่อมมีขนาดในการทานน้ำเห็ดแตกต่างกัน บางคนป่วยมานานมาก บางคนเพิ่งเริ่มป่วย บางคนป่วยหลายโรค เพราะฉะนั้นขนาดขนาดในการทานจึงแตกต่างกัน บางคนทานขวดเดียวเห็นผล บางคนทาน 2-3 ขวดเห็นผล บางคนทาน 5-6 ขวดถึงจะเห็นผล ควรทำใจให้เป็นกลางและลองทานให้ได้อย่างน้อย 3 ขวด (ทานอย่างต่อเนื่อง) แล้วอาการของคุณจะดีขึ้น วันแรกที่ทานให้คุณจดไว้เลยว่าทานวันที่เท่าไหร่ อาการก่อนทานเป็นอย่างไร รับรองว่าอาการจะดีขึ้นจนคุณพอใจจากผลการทดลอง คน 100 คน อาการเป็นที่น่าพอใจ 80 คน แต่คุณต้องทำตามที่เรานะนำและมีระเบียบในตัวเอง
9.น้ำเห็ดของเรามีจำหน่ายทั่วโลก และมีอย.หรือคณะกรรมการอาหารและยารับรอง อย. 10-3-21149-1-0003
10.ภายหลังที่ท่านมีสุขภาพดีขึ้นแล้ว พยายามอย่าหยุดทานให้ทานอย่างต่อเนื่อง แต่อาจจะลดปริมาณน้ำเห็ดลง เพื่อจะให้ร่างกายสมบูรณ์แข็งแรงอยู่เสมอโรคภัยจะได้ไม่กลับมาอีก
ข้อมูลสมุนไพร
1. เห็ดตังถั่งเช่า
เรียกอีกชื่อว่า "ถั่งเช่า" แปลเป็นไทยว่า ฤดูหนาวเป็นหนอน ฤดูร้อนเป็นหญ้า เห็ดตังถั่งเช่าเป็นสมุนไพรที่มีราคาสูงมาก ในสมัยก่อนประชาชนชาวจีนทั่วไปไม่สามารถนำมารับประทานได้ ต้องส่งถวายฮ่องเต้เท่านั้น โดยเห็ดชนิดนี้อุดมไปด้วยกรดอะมิโนหลายชนิด โปรตีน และวิตามินที่สำคัญต่อร่างกายหลายชนิด เช่น วิตามิน B12, วิตามิน E, วิตามิน K
1. เสริมสร้างพละกำลัง บรรเทาอาการเหนื่อยล้า
2. ช่วยปรับอาการหืดหอบจากภูมิแพ้
3. ปรับปรุงการทำงานของตับไต
4. ปรับระบบภูมิคุ้มกัน
5. ยับยั้งเนื้องอก
2. เห็ดจีซง
มีชื่อทางวิทยาศาสตร์ คือ Agarieus blazel Murill มีชื่อเรียกอีกอย่างว่าเห็ดพระอาทิตย์ หรือ เห็ดบราซิล มีแหล่งกำเนิดในทวีปอเมริกาใต้ พบมากในแถบตะวันออกเฉียงใต้ของประเทศบราซิล ในเขตภูเขา Piedade นอกชานเมือง ซานเปาโล ในปี 1965 ชาวเชื้อสายญี่ปุ่นในถิ่นนั้นได้ทำการศึกษาวิจัยจนมีชื่อเสียง และเริ่มดำเนินการผลิตเป็นวัตถุดิบสำหรับผลิตอาหารเสริมในตลาดญี่ปุ่นต่อไป
ลักษณะพิเศษ
ต้านโรคเนื้องอก เสริมภูมิคุ้มกันร่างกาย ลดน้ำตาลในเลือด และช่วยผลัดเซลล์ไขมัน
3. เห็ดจางจือ
ถือว่าเป็นราชาของเห็ดหลินจือ เป็นเห็ดพันธุ์ที่เกิดเฉพาะในใต้หวันเท่านั้น โดยจะกระจายอยู่ในเขตภูเขาที่ไต้หวันที่อยู่สูงเหนือระดับน้ำทะเล 450-2,000 เมตร อยู่ในกลางต้นหนิวจางที่ผุแล้ว เห็ดจางจือมีสารอาหารที่ไวทางกายภาพ เช่น น้ำตาลกลูโคส โปรตีน กรดนิวคลิอิค วิตามิน สารอินทรีย์ เป็นต้น
ลักษณะพิเศษ
1. ต้านโรคมะเร็ง ปรับการสร้างภูมิคุ้มกันโรค
2. ช่วยบำรุงตับ ต้านโรคตับอักเสบ
3. ต้านออกซิไดซ์
4. ช่วยให้หลอดเลือดหัวใจแข็งแรง
5. ต้านการอักเสบ
6. ช่วยควบคุมน้ำตาลในเลือด
4. เห็ดซางหวง
เป็นเห็ดที่เกิดตามช่องรูของไม้ โดยในแต่ละปีจะค่อยๆเติบโตขึ้นอย่างช้าๆ มีลักษณะสีดำ แข็งเหมือนกิ่งไม้ สังเกตได้ผิวด้านนอกที่เป็นสีดำ แต่ข้างในจะมีสีเหลืองสด ในประเทศจีนตั้งแต่สมัยโบราณ ซางหวงมีสรรพคุณในการขับปัสสาวะ บำรุงกระเพาะ แก้อาการท้องเสีย โดยเฉพาะในช่วงปีที่ผ่านมา ซางหวงได้รับความสนใจทางสรรพคุณในการรักษามะเร็งอย่างได้ผล สามารถยับยั้งการเจริญเติบโตของเนื้องอก และสามารถรักษาโรคภูมิแพ้ได้
5. เห็ดไมตาเกะ
มีสรรพคุณช่วยป้องกันโรคความดันโลหิตสูง ลดน้ำตาลในเลือด และโรคมะเร็งต่างๆ ช่วยเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย เห็ดไมตาเกะยังสามารถช่วยขับล้างสารพิษที่ปอด และตับได้ เพราะในเห็ด ชนิดนี้ประกอบด้วยสารอาหารมากมาย เช่น โปแทสเซียม แมกนีเซียม แคลเซี่ยม ใยอาหาร กรดอะมิโน และวิตามินอีกหลายชนิด เช่น วิตามินดี2 วิตามินบี2 วิตามินซี และไนอาซิน
6. เห็ดไป๋หวาหรง
เป็นเห็ดราชนิดหนึ่ง ที่นำมาใช้เป็นยาในประเทศรัสเซีย ได้รับความสนใจอย่างมากจนได้รับผลการวิจัยอย่างกว้างขวางจากอเมริกา ญี่ปุ่น เกาหลี และประเทศต่างๆ
ผลของตัวยาและสรรพคุณ
ญี่ปุ่นและเกาหลีใช้ป้องกันโรคร้ายแรงและรักษายาก เช่น โรคมะเร็งต่างๆ โรคหัวใจ โรคเบาหวาน ใช้ป้องกันโรคเอดส์ และพิษจากเชื้อแบคทีเรียในลำไส้ใหญ่