[ใหม่] โลชั่น "น้ำมันมะพร้าว" กลิ่นน้ำหอม (ความสุขในมวลดอกไม้) coconut oil body lotion กลิ่น happy in bloom
610 สัปดาห์ ที่แล้ว
- กรุงเทพมหานคร - คนดู 320
รายละเอียด
โลชั่น
"น้ำมันมะพร้าว" กลิ่นน้ำหอม (ความสุขในมวลดอกไม้) coconut oil body
lotion กลิ่น happy in bloom สินค้าใหม่ล่าสุด คงคุณภาพเหมือนเดิม
มาให้คุณ ๆ ได้ลองแล้วคะ
น้ำมัน หอมระเหยชนิดต่าง ๆ สามารถออกฤทธิ์กระตุ้นระบบประสาทและส่งผลไปยังความรู้สึก ลักษณะทางเคมี ของน้ำมันหอมระเหยเปรียบเหมือนกุญแจใจในการไขไปสู่ภายในโดยผ่านทาง จมูก กลิ่นหอมของอโรมาเทอราปี Aromatherapy สามารถส่งไปตามระบบต่าง ๆ โดยเฉพาะในส่วนที่เก็บความรู้สึกและอารมณ์ไว้ในระบบที่แตกเป็นแขนงในร่าง กาย แล้วจะปล่อยไปสู่ระบบของส่วนที่มีผลกระทบต่อประสาท การสูดดมน้ำมันหอม ระเหยค่าง ๆ จะช่วยปรับสภาพอารมณ์ให้อยู่ในสภาวะคงที่และยังส่งผลต่อการรักษาส่วนต่าง ๆ ทีเกี่ยวกับร่างกายโดยเฉพาะช่วยลดความเครียด
ไม่ เพียงแค่น้ำมันหอมระเหยกลิ่นต่าง ๆ สามารถช่วยผ่อนคลายด้านจิตใจแล้วยังช่วยทางด้านร่างกายอีกด้วยน้ำมันหอม ระเหยยังสามารถซึมเข้าทางผิวหนังได้ โดยมันจะส่งไปยังต่อมของเส้นขนโดยเดิน ทางผ่านตามเซลล์ต่าง ๆ และไปยังต่อมไขมัน น้ำมันหอมยังสามารถทำให้ผิวหนังสะอาดและสดชื่นตลอดเวลา
ประโยชน์ ที่ได้รับจากกลิ่นของน้ำมันหอมระเหยของแต่ละกลิ่นนั้น ผสมผสานเข้ากันได้ เป็นอย่างดีเมื่อใช้กับสูตรต่างๆ เปรียบเหมือนกับการสวดอ้อนวอนหรือการขอพรบางประการ อีกทั้งยังสามารถช่วยใน เรื่องของความรู้สึกนึกคิด ซึ่งสามารถที่จะทำให้สมองมีความคิดสร้างสรรค์
โลชั่น "น้ำมันมะพร้าว" กลิ่นน้ำหอม
coconut oil
body lotion
กลิ่น happy in bloom
ความสุขในมวลดอกไม้
น้ำมันมะพร้าว...มี
คุณสมบัติให้ความชุ่มชื้นแก่ผิวหนังได้ดี และมีวิตามินอีจากธรรมชาติมาก
ๆจึงได้นำมาเป็นส่วนผสมสำหรับโลชั่นบำรุงผิวคะ
แต่งกลิ่นด้วยน้ำหอมสูตรเข้มข้น
เพื่อเอาใจผู้ที่ต้องการกลิ่นหอมผ่อนคลายและสดชื่นทั้งวัน
ใช้ได้ทั้งชายและหญิง กลิ่นติดทนนาน กลิ่นไม่หวานเกินไป และไม่ฉุนเกินไป
โลชั่นบำรุงผิว
ได้จากน้ำมันมะพร้าวสกัดเย็น 100%
แต่งกลิ่นด้วยน้ำหอมสูตรเข้มข้นจากดอกไม้และผลไม้นานาชนิด
จนได้กลิ่นที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวเย้ายวนยั่วใจ
ขนาดบรรจุ 100 มล. จุกปั้มใช้งานง่าย
ราคา 250 บาท
ใช้สำหรับทาบำรุงผิวหรือนวดผ่อนคลายด้วยโลชั่น ด้วยวิตามินอีจากธรรมชาติใน น้ำมันมะพร้าว สกัด
เย็น 100% ช่วยบำรุงผิวให้นุ่มน่าสัมผัส ซึมซาบผิวได้ง่าย
ไม่เหนียวเหนอะหนะ มีกลิ่นหอมสดชื่น ผสมผสานกลิ่นจากดอกไม้ ,ผลไม้,พืชต่าง ๆ
หลากชนิดเสมือนกลิ่นดอกไม้บานยามเช้า พร่างพราวด้วยหยาดน้ำค้าง
กลิ่นหอมประทับใจตั้งแต่สัมผัสเริ่มแรก เป็นการผสมผสานความสดชื่น นุ่มนวล
อบอุ่น และความทันสมัยเอาไว้ด้วยกัน กลิ่นที่นำมาเป็นส่วนผสม คือ
กลิ่นทับทิม , ราสเบอร์รี่และพีช ผสมด้วยกลิ่นหัวใจหลักเพิ่มความเย้ายวนใจด้วยกลิ่นของดอกกุหลาบ , ดอกมะลิและลิลลี่
ด้วย
ความหอมอบอวลจากกลิ่นอายของความสุข เหมาะสำหรับทุกคน ทุกอารมณ์
ผสมผสานความหอมของมวลดอกไม้หลากหลายชนิดที่เลือกสรรแล้ว
กลิ่นหอมบางเบาของกลีบกุหลาบและมะลิชวนให้หลงใหลน่าสัมผัส
ด้วยความหอมของราสเบอร์รี่และพีชที่ให้กลิ่นสดชื่น
และเบาสบายเหมือนไอเย็นจากยอดเขา เสริมด้วยกลิ่นหวานซ่อนเปรี้ยวของทับทิม
พร้อมเพิ่มความโดดเด่นเฉพาะของกลิ่นกุหลาบในกลิ่นตัวโน๊ตสุดท้าย
มาเติมความสุขด้วย
ความหอมที่ยาวนานตลอดวันกับโลชั่นกลิ่นความสุขในมวลดอกไม้สูตรเฉพาะของเราสิ
คะ ที่จะทำให้หัวใจของคุณและคนข้าง ๆ เบ่งบานไม่รู้จบ
ผู้ที่อยู่ใกล้พลอยได้กลิ่นสดชื่นและมีชีวิตชีวาตามไปด้วย
บทความมหัศจรรย์กลิ่นบำบัด
หลักการของอโรมาเธอราพีหรือกลิ่นบำบัด คือ
มนุษย์มีประสาทรับกลิ่นอยู่ในโพรงจมูก เมื่อกลิ่นต่างๆ
ผ่านเข้ามาประสาทรับกลิ่นจะส่งสัญญาณไปสู่สมองส่วนควบคุมอารมณ์และความทรงจำ
ในขณะที่อากาศจะผ่านไปยังปอดและเข้าสู่กระแสเลือดไปตามส่วนต่างๆ
ของร่างกาย
หากหายใจเอาอากาศที่ไม่บริสุทธิ์ เช่น ไอเสียรถยนตร์หรือควันบุหรี่ เข้าไป
จะทำให้สารพิษที่ปนอยู่ในอากาศเสียนั้นตกค้างอยู่ในระบบทางเดินหายใจ
และมีผลกระทบต่อระบบประสาท ทั้งยังทำให้
อารมณ์และความทรงจำแปรปรวนไปด้วย ประสาทรับกลิ่นก็เช่นเดียวกันที่ได้รับผล
กระทบจากกลิ่นเสียของมลพิษและสารเคมีอันตราย หรือกลิ่นดีที่มาจากธรรมชาติ
ด้วยเหตุนี้จึงได้มีการค้นคว้าวิจัยน้ำมันหอมระเหยที่ถูกสกัดจากพืชสมุนไพร
หลากหลายชนิดเพื่อหาคุณสมบัติที่เหมาะสมสำหรับนำมาบำบัดรักษาโรคต่างๆ
ซึ่งบางชนิดก็สามารถกำจัดแบคทีเรียได้ บางชนิดก็ช่วยแก้ภูมิแพ้
หรือช่วยกระชับผิวให้เต่งตึง
ส่วนกลิ่นนั้นมีความสามารถในการผ่อนคลายความเครียดและทำให้จิตใจสงบหรือ
รู้สึกกระปรี้กระเปร่า
สำหรับน้ำมันหอมระเหยที่ใช้ในการบำบัดแบบอโรมาเธอราพี
จะต้องมีความบริสุทธิ์สูง
ซึ่งความบริสุทธิ์ของน้ำมันจะขึ้นอยู่กับหลายปัจจัยตั้งแต่
ภูมิอากาศของสถานที่ปลูก, วิธีการปลูก,
การดูแลรักษาปจนถึงการเก็บเกี่ยวและกระบวนการสกัดเอาน้ำมันหอมระเหย
วิธีการนำน้ำมันหอมระเหยมาใช้เองก็มีหลายวิธี ทั้งการนวด, อาบ, ประคบ,
การสูดดม, สูดไอน้ำ,
การเผาอบห้องรวมถึงการผสมกับเครื่องหอมน้ำมันหอมและเครื่องสำอาง
ซึ่งแต่ละวิธีต่างมีความเหมาะสมในการใช้แตกต่างกัน
โดยการนวด เป็น
วิธีนิยมและได้ผลดีที่สุดวิธีหนึ่ง
เพราะสรรพคุณของน้ำมันหอมระเหยหลายชนิดจะสามารถช่วยบำบัดรักษาโรคได้เมื่อยา
จะซึมผ่านผิวหนังจากการนวด
ส่วนกลิ่นหอมจะช่วยให้ประสาทสัมผัสรับกลิ่นปรับอารมณ์ให้
รู้สึกสบายขึ้นไปพร้อมๆ กัน
อีกวิธีที่ได้รับความนิยมในวงกว้างคือ การสูดดม ซึ่ง
เป็นการใช้กลิ่นหอมจากน้ำมันหอมระเหยอย่างเดียวโดยไม่มีการสัมผัสทางผิว
หนัง การสูดดมกลิ่นหอมนั้นสามารถทำได้ 2 วิธีคือ ใส่น้ำมันหอมระเหย 2-3 หยด
ในชามที่เตรียมน้ำอุ่นไว้แล้วก้มลงสูดดมสัก 2-3 นาที
หรือหยดน้ำมันหอมระเหย 1-2 หยด ในผ้าเช็ดหน้าแล้วสูดดม
อย่างไรก็ตามควรหลีกเลี่ยงการสัมผัสน้ำมันหอมระเหยโดยตรง
นอกจากนี้ยังมีวิธีที่คล้ายกันคือ การสูดไอน้ำเนื่อง
จากน้ำมันระเหยบางชนิดสามารถฆ่าเชื้อโรคได้เมื่อสูดดมไอน้ำของน้ำมันหอม
ระเหยจะช่วยกำจัดเชื้อโรคในระบบทางเดินหายใจ โดยให้หยดน้ำมันหอมระเหย 2-4
หยด ลงในชามขนาดใหญ่ ซึ่งผสมน้ำร้อนไว้
จากนั้นใช้ผ้าคลุมและก้มหน้าลงเข้าไปอังและสูดไอน้ำร้อนผสมน้ำมันหอมระเหย
พร้อมพักเป็นระยะๆ
อนึ่งวิธีนี้ไม่เหมาะกับผู้ที่มีปัญหาเรื่องผิวบางและไม่เหมาะกับผู้ที่เป็น
โรคหอบหืด
ค้นหาร่างกาย จิตใจ และจิตวิญญาณ จากกลิ่นบำบัดในกลิ่น
น้ำมัน หอมระเหยชนิดต่าง ๆ สามารถออกฤทธิ์กระตุ้นระบบประสาทและส่งผลไปยังความรู้สึก ลักษณะทางเคมี ของน้ำมันหอมระเหยเปรียบเหมือนกุญแจใจในการไขไปสู่ภายในโดยผ่านทาง จมูก กลิ่นหอมของอโรมาเทอราปี Aromatherapy สามารถส่งไปตามระบบต่าง ๆ โดยเฉพาะในส่วนที่เก็บความรู้สึกและอารมณ์ไว้ในระบบที่แตกเป็นแขนงในร่าง กาย แล้วจะปล่อยไปสู่ระบบของส่วนที่มีผลกระทบต่อประสาท การสูดดมน้ำมันหอม ระเหยค่าง ๆ จะช่วยปรับสภาพอารมณ์ให้อยู่ในสภาวะคงที่และยังส่งผลต่อการรักษาส่วนต่าง ๆ ทีเกี่ยวกับร่างกายโดยเฉพาะช่วยลดความเครียด
ไม่ เพียงแค่น้ำมันหอมระเหยกลิ่นต่าง ๆ สามารถช่วยผ่อนคลายด้านจิตใจแล้วยังช่วยทางด้านร่างกายอีกด้วยน้ำมันหอม ระเหยยังสามารถซึมเข้าทางผิวหนังได้ โดยมันจะส่งไปยังต่อมของเส้นขนโดยเดิน ทางผ่านตามเซลล์ต่าง ๆ และไปยังต่อมไขมัน น้ำมันหอมยังสามารถทำให้ผิวหนังสะอาดและสดชื่นตลอดเวลา
ประโยชน์ ที่ได้รับจากกลิ่นของน้ำมันหอมระเหยของแต่ละกลิ่นนั้น ผสมผสานเข้ากันได้ เป็นอย่างดีเมื่อใช้กับสูตรต่างๆ เปรียบเหมือนกับการสวดอ้อนวอนหรือการขอพรบางประการ อีกทั้งยังสามารถช่วยใน เรื่องของความรู้สึกนึกคิด ซึ่งสามารถที่จะทำให้สมองมีความคิดสร้างสรรค์
อโร
มาเทอราปี (Aromatherapy) เป็นทั้งการสำรวจ คิดค้นความสร้างสรรค์
และความรู้เชิงเทคนิคในแง่ปฏิบัติ
การสร้างสรรค์มาจากการเข้าใจคุณลักษณะของ น้ำมันหอมระเหย ( Essential Oils
) และจินตนาการว่ากลิ่นที่มีความแตกต่างกัน
สามารถผสมผสานกลิ่นแปลกใหม่ได้อย่างไร
ในแง่วิทยาศาสตร์ส่วนประกอบน้ำมันหอมทางเคมีเหล่านี้ยังมีปฏิกิริยาต่อร่าง
กาย จิตใจ และจิตวิญญาณอีกด้วย
"ด้านจิตใจ"
ตัวอย่าง
หนึ่งของการใช้น้ำมันหอมระเหยที่สามารถลดความเครียดได้เป็นอย่างดี คือการ
หยดน้ำมันหอมระเหยคาโมไมล์ (Chamomile) ลงบนผ้าเช็ดหน้า 2-5
หยด และสูดดมเป็นประจำ เป็นเพราะว่าน้ำมันนี้ระเหยง่ายในสภาพแวดล้อมต่าง ๆ
นอก
จากนั้ยังสามารถใช้ตะเกียง ซึ่งมีลักษณะส่วนบนเป็นถ้วยเซรามิคเล็ก
ๆ ให้เติมน้ำมันหอมระเหยต่างๆ
ผสมกับน้ำ และลนด้านล่างของถ้วยนั้นด้วยเทียนหรือหลอดไฟ
เพื่อให้น้ำมันหอมระเหยออกมา
จา
การทดลองใช้น้ำมันหอมระเหยในบริเวณที่นั่งรอของคนไข้พบว่า
ช่วยให้คนไข้มีความกระชุ่มกระชวย สดชื่น
และเมื่อจุดไว้ในสำนักงาน ยังจะช่วยลดอาการง่วงซึมจากอาหารกลางวันได้อีก
ด้วย ทำให้มีพลังในการทำงาน ซึ่งส่วนมากจะใช้น้ำมันหอมระเหยกลิ่น
Pepermint และกลิ่นมะนาว
"ด้านร่างกาย"
น้ำมัน
หอมระเหย สามารถใช้รักษาโรคด้วยวิธีการนวดได้ โดยการนำไปผสมในลูกประคบและ
ผสมในการใช้ในการอบไอน้ำที่บริเวณใบหน้าและผสมในน้ำที่แช่ไว้สำหรับอาบ แต่
น้ำมันหอมระเหยควรจะมีการทำให้เจือจางก่อนที่จะใช้ อีกทั้งน้ำมันหอมที่สกัด
ได้มาจากผัก เช่น น้ำมันหอมระเหยที่สะกัดจากเมล็ด Almond และ Jojoba
สามารถประยุกต์ในการแช่น้ำไว้อาบและรักษาสุขภาพ โดยผสมให้เจือจางประมาณ
2-3% จะช่วยลดความตึงเครียดในแต่ละวันได้เป็นอย่างดี
น้ำมัน
หอมนอกจากจะช่วยผ่อนคลายความตึงเครียดของร่างกายและจิตใจได้แล้ว น้ำมันหอม
ระเหยยังมีประโยชน์ต่อผิวหนังอีกด้วย
เพราะผิวหนังเป็นส่วนที่มีความสลับซับซ้อนและไวต่อความรู้สึก ผิวหนังยัง
เปรียบเสมือนเครื่องควบคุมระบบภายในนั้นเองและยังป้องกันตัวเราจากสิ่ง
อันตรายภายนอกและมลพิษต่าง
ๆ หลายคนมีปัญหาเกี่ยวกับผิวหนังอุดตัน เราอาจใช้น้ำมันกลิ่น Lavender
ปรับสภาพความมันของผิวและขจัดสิ่งสกปรกที่อุดตันรูขุมขนออกไป และยังสามารถ
ช่วยบรรเทาและปรับสภาพผิวแห้งกลับมาชุ่มชื่น ซึ่งผิวแห้งเกิดจาการขาด Sebum
(สารไขมันที่ขับออกจากต่อมผิวหนัง) มากกว่าปกติ อาจเกิดจากการใช้
ครีมบำรุงผิวที่มีค่าต่ำกว่ามาตรฐาน
ผลิตภัณฑ์ที่ใช้กับผิวหนัง แต่สามารถแก้ปัญหาเหล่านี้ได้ด้วยน้ำมันหอมระเหย
"ด้านจิตวิญญาณ"
ส่วน
น้ำมันที่ได้จากกำยานนั้นได้ถูกนำมาใช้ตั้งแต่อดีตกาล
ชวยในการทำงานของความสัมพันธ์ระหว่างระบบภายในและภายนอก รวมทั้งกลิ่นหอมที่
ได้จากขี้ผึ้งซึ่งแพร่กระจายตรงไปยังปอด สามารถกระตุ้นระบบของการทำงานต่างๆ
รวมทั้งระบบการหายใจด้วย
น้ำมัน
หอมเป็นสิ่งที่มีค่ามากและให้ผลทางด้านบวกต่อการทำงานในแต่ละระบบในตัว
เรา การบำบัดทางกลิ่นนั้นยังสามารถนำเข้ามาใช้กับทางวิทยาศาสตร์คือ สามารถ
กระตุ้นให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในชีวิตบนพื้นฐานของความสวยความงาม และมีผลถึง
ความซับซ้อนต่างๆ ของระบบ
บาง
กรณีก็ยังสามารถผลักดันให้เรานึกถึงเหตุการณ์และการมีชีวิตที่สดใสในวัย
เด้ก และในอดีตได้อย่างแม่นยำ รวมถึงความไวต่อการรับกลิ่นนั้น ถือได้ว่าไม่
ใช่เป็นความสามารถเฉพาะบุคคล มันยังเป็นสิ่งซึ่งเกี่ยวกับธรรมชาติที่เรียก
ได้ว่า "สิ่งที่สามารถยอมรับได้" เช่น
ชนเผ่าหนึ่งในสมัยดึกดำบรรพ์ที่เกาะนิวกินี เมื่อเวลาที่พวกเขาต้องลาจาก
กัน พวกเขาจะปฏิบัติโดยการที่เอามือไปประสานไว้ที่ใต้รักแร้ของกันและ
กัน จากนั้นก็จะถูและสูดดมกลิ่นซึ่งกันและกัน
แต่
ทางตรงกันข้ามในกาลสมัยหนึ่งของญี่ปุ่น บุคคลใดมีกลิ่นตัวแรงถือว่าเป็น
บุคคลที่ขาดคุณสมบัติบางประการ จึงไม่มีสิทธิ์ที่จะเข้ารับการคัดเลือกการ
เกณฑ์ทหาร
ใน
ปัจจุบันน้ำมันหอมระเหยมีอยู่ตามท้องตลาดมากมายหลากชนิด
ความลับและมนต์เสน่ห์ของน้ำมันหอมระเหยเหล่านี้
หากเราทำความเข้าใจเรียนรู้สรรพคุณอย่างลึกซึ้งแล้ว ก็จะนำไปสุ่การใช้
ประโยชน์ได้อย่างมีประสิทธิภาพและมีคุณค่า