[ใหม่] ยาสมุนไพร

619 สัปดาห์ ที่แล้ว - ชลบุรี - คนดู 600

450 ฿

  • ยาสมุนไพร รูปที่ 1
  • ยาสมุนไพร รูปที่ 2
  • ยาสมุนไพร รูปที่ 3
รายละเอียด

รายละเอียด :
ปกติราคากล่องละ 450 บาท ซื้อทีเดียว 5 กล่องจะได้กล่องละ 400 บาท
ยาเกร็กคู สุดยอดผลิตภัณฑ์สมุนไพรจีนของ อ.ทศพร ตาทิพย์... ปรุงโดยคณะแพทย์และเภสัชกรจีนในประเทศจีน ด้วยเทคโนโลยี่ที่ทันสมัย ได้สูตรยาที่เข้มข้น มีประสิทธิภาพเยี่ยม ส่งผลรวดเร็วและส่งผลเข้มข้น แต่นุ่มนวล สุภาพ และปลอดภัยสูงสุดด้วยส่วนผสมจากสมุนไพรเกรด A ที่คัดสรรแล้วอย่างดีที่สุด (เช่น ตังถั่งเฉ้า ซึ่งจะเลือกเกรดที่ดีที่สุด แพงที่สุด ตกราคากิโลกรัมละประมาณ 2 ล้านบาท) ให้ส่งผลต่อการบำรุงร่างกาย ทำให้เกิดสมดุลย์ อวัยวะทำงานอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น แข็งแรงไม่อ่อนเพลียง่ายๆ เลือดลมไหลเวียน เหมือนคืนความเป็นหนุ่มเป็นสาว ชะลอวัย ทั้งนี้ก็เพื่อประโยชน์ต่อสุขภาพของผู้บริโภคแบบองค์รวมอย่างแท้จริง จึงได้สมญาว่า "สมุนไพรกตัญญูต่อผู้บริโภค"... ...คำว่ากตัญญูต่อผู้บริโภคก็คือ ให้ผู้บริโภคได้รับสิ่งที่ดีที่มีผลต่อสุขภาพร่างกายอย่างดีเยี่ยม และอย่างแท้จริง ในราคาที่ธรรมดาๆ ที่ยังสามารถหาซื้อได้ในราคาไม่แพง..... ยาเกร็กคู 1 กล่องมี 6 แคปซูล ราคากล่องละ 500 บาท... โปรโมชั่นวันนี้ ซื้อ 5 กล่องมี 30 แคปซูล ราคาปกติ 2500 บาท ลดเหลือ 1900บาท พร้อมส่งฟรีทั่วประเทศ.... ทานได้ทั้งหญิงและชาย ท่านหญิงทานแล้วจะทำให้มดลูกกระชับ ไม่หย่อนคล้อย หายตกขาว หรือมีกลิ่นอันไม่พึงประสงค์ มีบุตรง่าย ประจำเดือนจะมาเป็นปกติ ไม่ปวดท้องน้อย....ส่วนท่านชายก็จะมีความแข็งแรง สดชื่น ทำงานได้มากขึ้น ไม่อ่อนเพลียง่ายๆ..... ขณะนี้ยาเกร็กคูได้รับความนิยม และได้รับการต้อนรับอย่างล้นหลามจากผู้บริโภคที่รู้จัก และศรัทธาใน อ.ทศพร ตาทิพย์ และได้ให้การยอมรับถึงสรรพคุณที่ดีเยี่ยม และปลอดภัยอย่างแท้จริง.... 
เลขทะเบียนยาที่ G481/53
ลักษณะและสีของยา : เป็นผงยาสีน้ำตาล บรรจุในแคปซูลสีเขียว
บรรจุ : อยู่ในแผงบริสเตอร์แพค แผงละ 6 แคปซูลๆละ 600 มิลลิกรัม (บรรจุผงยา 500 มิลลิกรัม)
สรรพคุณ : บำรุงร่างกาย
INDICATION : TONIC
วิธีใช้ : รับประทานครั้งละ 1-2 แคปซูล วันละ 1 ครั้งก่อนอาหารเย็น พร้อมน้ำอุ่น
DOSAGE : 1-2 Capsules once daily before meal
ส่วนผสม :
1. อี๋อี่ยิ่ง (เดือย) : สรรพคุณ... ราก : นำมาทำเป็นยาชงทาน เพราะมีสารพวก coixol ซึ่งใช้ขับพยาธิในเด็ก.... เมล็ด : นำม่ทำเป็นยาใช้บำบัดอาการหลอดลมอักเสบ ปอดอักเสบ มีน้ำคั่งในปอด และถ้านำมาหมักจะได้แอลกอฮอล์ ซึ่งใช้ในโรคข้ออักเสบ แต่ถ้าคนที่ฟื้นไข้ใหม่ๆ ก็นำเมล็ดมาชงซึ่งเป็นอาหารที่มีคุณค่ามาก เป็นยาเย็น และขับปัสสาวะ
2. เนกกุ่ย : สรรพคุณ... เป็นยารสหวาน ฤทธิ์เผ็ดร้อน เสริมความร้อนให้กับร่างกาย แก้อาการท้องร่วง ปวดเอว ปวดเข่า ทำให้ระบบไหลเวียนโลหิตดีขึ้น
3. เกากี้จี้ : สรรพคุณ... ผง ราก ต้น ใบ และเปลือกรากเป็นยาบำรุงกำลัง บำรุงสายตา บำรุงเลือด ขับปัสสาวะ แก้ไอ แก้ไข้ แก้เหงือกบวม แก้โรคเบาหวาน และโรคไต ใบและผลนำมาทำเป็นอาหารได้
4. โถ่วชี้จี้ : สรรพคุณ... ลำต้น ใช้ลำต้นแห้งประมาณ 10-15 กรัม นำมาต้มน้ำกินเป็นยาแก้บิด อาเจียนเป็นเลือด อุจจาระเป็นเลือด ตกเลือด ไอเป็นเลือด เลือดกำเดาไหล แก้โรคดีซ่าน และแก้พิษ หรือใช้ภายนอก โดยการนำเอาลำต้นมาตำให้ละเอียด คั้นเอาน้ำทา หรือพอกบริเวณที่เป็นฝ้า ผดผื่นคัน แผลเรื้อรัง และใช้ห้ามเลือด เป็นต้น.... เมล็ด ใช้เมล็ดที่แห้งประมาณ 10-15 กรัม นำมาต้มน้ำกิน หรือนำมาบดให้ละเอียดทำเป็นยาเม็ด หรือทำเป็นยาผง ใช้เป็นยาบำรุงกำลัง บำรุงตับไต แก้ปวดเมื่อยตามร่างกาย ทำให้ตาสว่าง แก้กระหายน้ำ และแก้น้ำกามเคลื่อน เป็นต้น
5. ตั่วจ้อ : สรรพคุณ... น้ำต้มจากเปลือกต้มกินเป็นยาฝาดสมาน แก้ปวดท้อง แก้บิด แก้ท้องเสีย แก้ไอ แก้เหงือกอักเสบ... ผลแห้งช่วยการทำงานของม้ามและกระเพาะอาหาร ช่วยย่อย บำรุงร่างกาย ฟอกเลือด เป็นยาระบายอ่อนๆ แก้ไอ ช่วยสงบประสาท และใช้ผสมกับสูตรยาอื่นๆเพื่อให้ยาออกฤทธิ์ได้นานขึ้น
6. ซัวเอียะ : สรรพคุณ... เสริมสร้างร่างกาย ช่วยย่อยอาหาร แก้ท้องร่วง ลดเหงื่อ บำรุงไต และใช้ได้ผลมากกับอาการอันเกิดจากโรคเบาหวาน เช่น กระหายน้ำ ซูบผอม ปัสสาวะมาก รวมทั้งอาการเหงื่อออกมาก นอนไม่หลับ เบื่ออาหาร
7. อิมเอียงคัก : สรรพคุณ... รสหวาน เผ็ดร้อน ฤทธิ์อุ่น เป็นยาที่มีสรรพคุณฟื้นฟูไต ใช้แก้ปวดหลัง เป็นยาบำรุงร่างกาย
8. ตังถั่งเช่า : สรรพคุณ... บำรุงไต สร้างฮอร์โมน บำรุงหัวใจ ปอด หลอดลม กล่องเสียง เสริมอายุวัฒนะ
9. โหงวบี่จี้ : สรรพคุณ... บำรุงเลือด บำรุงกำลัง บำรุงร่างกาย บำรุงไต แก้อาการปัสสาวะรดที่นอน เสริมกำลังให้แข็งแรง ใช้บำบัดอาการตายด้าน
10. แปะตุ๊ก : บำรุงกระเพาะอาหาร เสริมสร้างร่างกาย และขับปัสสาวะ จึงใช้สำหรับบำบัดอาการอาหารไม่ย่อย บิดเรื้อรัง เบื่ออาหาร แขนขาไม่มีแรี่ยวแรง และบวมน้ำ เป็นต้น
11. เห็ดหลินจือ : มีสารประกอบที่มีประสิทธิภาพในการรักษาโรคกว่า 200 ชนิด ซึ่งจำเป็นมากต่อร่างกาย ซึ่งสามารถนำมาใช้รักษาโรคต่างๆได้อย่างกว้างขวาง เช่น โรคมะเร็ง โรคหัวใจ โรคเบาหวาน โรคตับ โรคไขมันในเลือดสูง โรคความดันโลหิตสูง โรคภูมิแพ้ ช่วยเพิ่มภูมิคุ้มกันให้แก่ร่างกาย เป็นต้น
และอื่นๆอีก ที่เป็นประโยชน์ต่อสุขภาพองค์รวมอย่างแท้จริง
ผลข้างเคียง : เมื่อทานไปได้ 1-3 วันแรก (วันละ 1 แคปซูลก่อนนอน) อาจมีอาการ ปวดศรีษะ ต้นคอ หลัง เอว ขา น่อง หรือคล้ายๆมีอาการเป็นไข้ ก็ไม่ต้องตกใจ ให้หยุดทานประมาณ 2-3 วัน และอาจเพิ่มการทานยาขมแก้ร้อนในช่วยด้วยก็ได้ แล้วอาการข้างเคียงเหล่านั้นก็จะหายไปเอง จากนั้นเมื่อกลับมาทานใหม่ ก็จะไม่มีอาการเหล่านั้นอีกแล้ว 
การทำงานของตัวยา : เมื่อทานยากับน้ำอุ่นก่อนนอน ตัวยาจะซึมเข้าไปในกระแสเลือด เข้าสูเส้นลมปราณของอวัยวะต่างๆของร่ายกาย เพื่อทำให้อวัยวะเหล่านั้นทำงานได้เต็มประสิทธิภาพมากขึ้น การไหลเวียนของเลือดและลมปราณดีขึ้น เกิดสมดุลย์ร่างกายมากขึ้น ทำให้ร่างกายแข็งแรง สดชื่น กระปรี้กระเปร่า 
ข้อควรระวัง : ผู้ที่เป็นไข้หวัด เด็กและสตรีมีครรภ์ ไม่ควรรับประทาน 
ราคา : แผงละ 500 บาทมี 6 แคปซูล... โปรโมชั่น ซื้อ 5 แผงมี 30 แคปซูล ราคา 2000 บาท พร้อมส่งฟรีทั่วประเทศ
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับยาเกร็กคู
เช่น ผลิตที่ไหน มีอย.หรือไม่ มีสเตียรอยด์ไม๊ มีสรรพคุณอย่างไรบ้าง มีส่วนประกอบด้วยสมุนไพรตัวไหนบ้าง มีตังถั่งเฉ้าไม๊ ด้านสมรรถภาพทางเพศของผู้ชายช่วยได้แค่ไหน แล้วถ้าเทียบกับยาตัวนั้นตัวนี้จะเป็นอย่างไร บำรุงตับไตได้แท้จริงหรือไม่ หรือช่วยรักษาโรคอะไรได้บ้าง เป็นโรคนั้นโรคนี้อยู่ทานได้ไม๊ แล้วจะหายไม๊ ปกติทานอย่างไร มีอาหารอะไรต้องห้ามทานบ้าง ราคาเท่าไหร่ ผู้หญิงทานได้ไม๊ ผู้เฒ่าทานได้ผลไม๊ เป็นต้น ก็จะขอตอบคำถามเหล่านั้นพอสังเขปดังนี้นะครับ
ยาเกร็กคูผลิตที่ไหน
ตัวยาผลิตที่ประเทศจีน โดยคณะแพทย์และเภสัชกรจีน ของบริษัทที่มีชื่อเสียงและมีเทคโนโลยี่ที่ทันสมัย ตัวยาที่นำเข้ามาจากประเทศจีน จะถูกนำมาบรรจุในประเทศไทยโดย บริษัท บัวทอง เอกซิบิชั่น กรุ๊ป จำกัด โดยเจ้าของตัวยา และสูตรยาคือ อ.(โหร)ทศพร ตาทิพย์ ซึ่งเป็นเจ้าของผู้ผลิตสูตรยาจีน ที่เคยโด่งดังมาก่อนแล้วในอดีตจนกระทั่งปัจจุบัน ทำให้ชายไทยมากมายได้กลับมาแข็งแรงเหมือนกลับเป็นหนุ่มใหม่อีกครั้ง
มีอย.หรือไม่
ยาเกร็กคูได้รับการรับรองจากคณะกรรมการอาหารและยาแล้ว เลขทะเบียนยาที่ G 481/53 เป็นยาจีนแผนโบราณ และยังได้รับการตรวจวิเคราะห์ตัวยาจากสาธารณสุขแล้ว มีความปลอดภัย ไร้สารสเตียรอยด์ หรือสารใดๆที่จะเป็นอันตรายต่อร่างกาย
มีสรรพคุณอย่างไร
สรรพคุณที่ได้รับการรับรองจาก อย.คือ บำรุงร่างกาย แต่ถ้าหากจะให้ขยายความในที่นี้ก็บอกได้ว่า ยาเกร็กคูนี้ได้รับการปรุงสูตรยาเพื่อให้มีการปรับปรุงหรือการบำรุงร่างกายแบบองค์รวม คือการเข้าไปสร้างสมดุลย์ให้กับอวัยวะต่างๆในร่างกาย เมื่ออวัยวะเหล่านี้ทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ ไม่บกพร่อง ฟื้นฟูร่างกายจากความเสื่อม ย่อมทำให้ร่างกายแข็งแรง ไม่มีโรคภัยไข้เจ็บ ปัจจุบันก็มีโรคเรื้อรังต่างๆที่เกิดจากความเสื่อมของร่างกาย เช่น เบาหวาน ความดัน โรคหัวใจ กล้ามเนื้อหัวใจโต ไขมันในเลือดสูง เก๊าท์ รูมาติด รูมาตอยด์ ปวดตามข้อกระดูก กระดูกทับเส้น ต่อมลูกหมากโต ปัสสาวะไม่ออก กระปิดกระปอย เสื่อมสมรรถดภาพทางเพศ ภูมิแพ้ หลอดเลือดตีบ โรคไต โรคตับ ปวดเมื่อยตามร่างกาย อ่อนเพลียง่าย เครียดนอนไม่หลับ ปวดศรีษะ ไมเกรน ซึ่งหลายท่านก็รักษากันมานานหลายๆปีก็ไม่ดีขึ้น มีแต่จะแย่ลงตามวันเวลาที่ผ่านไป ทั้งนี้ก็เพราะร่างกายเกิดการเสื่อมลงๆ และการรักษาที่ไม่ตรงจุดนี้จึงไม่ทำให้หายจากโรคเรื้อรังเหล่านี้ได้ การรักษาที่ตรงจุดก็คือการฟื้นฟูระบบการทำงานของร่างกาย ทำให้ร่างกายได้สมดุลย์ เลือดและลมปราณมีพลังในการไหลเวียนดี ไม่ติดขัด อวัยวะของร่างกายทำงานอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ทำให้อาการเสื่อมของร่างกายลดลง เมื่อร่างกายได้รับการฟื้นฟูให้แข็งแรงขึ้น ได้สมดุลย์ โรคเรื้อรังเหล่านั้นที่เกิดจากความเสื่อมของร่างกายก็จะค่อยๆดีขึ้นได้ ซึ่งตัวยาเกร็กคูได้รับการปรุงสูตรมาให้สามารถสร้างสมดุลย์ให้กับอวัยวะหลักต่างๆของร่างกาย ทำให้ร่างกายได้สมดุลย์แข็งแรง (หมายเหตู : ปัจจุบันมีโรคเรื้อรังหลายอย่างที่กฏหมายระบุว่าเป็นโรคที่ไม่สามารถรักษาให้หายได้ เช่น โรคเบาหวาน โรคหัวใจ โรคความดันโลหิตสูง เป็นต้น ดังนั้นจึงขอให้ท่านทั้งหลายเข้าใจแต่เพียงว่า ยาเกร็กคูเป็นเพียงยาบำรุงร่างกายเท่านั้น ไม่ใช่ยารักษาโรคเหล่านั้นให้หายได้ แม้ว่าหลายท่านที่ได้ทานยาเกร็กคูไปแล้ว และพบกับผลที่ดีอย่างไม่น่าเชื่อก็ตาม จนพูดกันปากต่อปากกันไปแบบว่า หายๆๆๆๆๆๆ แต่ทางเราก็ไม่อาจที่จะกล่าวว่ายาเกร็กคูสามารถทำให้โรคเหล่านั้นหายได้ แต่ทำให้ดีขึ้นได้นั้น ต้องบอกว่าแน่นอน แต่ก็ไม่ใช่ทำให้โรคเหล่านั้นหายได้ ที่ทำได้เห็นๆก็คือ ทำให้ร่างกายแข็งแรง สดชื่น กระปรี้กระเปร่า ไม่อ่อนเพลียง่ายๆ ซึ่งตามศาสตร์การแพทย์จีนก็คือการทำให้ร่างกายได้สมดุลย์นั่นเอง)
มีส่วนประกอบสมุนไพรอะไรบ้าง มีตังถั่งเฉ้า หรือไม่
ยาเกร็กคูมีส่วนประกอบสมุนไพรที่สำคัญๆมากมาย และทุกตัวได้รับการคัดสรรเป็นอย่างดี เป็นสมุนไพรเกรดเอ ที่มีราคาแพงโดยเฉพาะตัวถั่งเฉ้า ซึ่งเลือกระดับเกรดเอ ตกกิโลกรัมละประมาณ 2 ล้านบาท ถ้าเกรดต่ำกว่านี้จะตกกิโลกรัมละประมาณหลักแสน หรือหลักหมื่นบาทเท่านั้น สมุนไพรต่างๆที่ปรุงเข้าไปในตัวยาเกร็กคูนั้น ทำให้ผู้ป่วยที่เป็นโรคความดันโลหิตสูง โรคเบาหวาน โรคหัวใจโต หลอดเลือดหัวใจตีบ เสื่อมสมรรถภาพทางเพศ และอื่นๆอีกดังที่ได้กล่าวไว้ข้างต้นแล้วเกี่ยวกับโรคที่เกิดจากความเสื่อมของร่างกาย สามารถที่จะมีอาการที่ดีขึ้นได้ (แม้หลายท่านที่ได้ลอง จะบอกว่าเขามีอาการเป็นปกติ ใช้ชีวิตได้อย่างปกติ มีความแข็งแรงทนทานมากแล้วก็ตาม แต่ก็ต้องขอย้ำว่ายาเกร็กคู เป็นเพียงยาบำรุงร่างกายเท่านั้น ไม่ใช่ยาที่จะทำให้หายจากโรคเหล่านั้นได้)
ยาเกร็กคู บำรุงตับไตได้อย่างแท้จริงหรือไม่
เพื่อความชัดเจน ก็ต้องขอย้ำไว้ ณที่นี้อีกครั้งหนึ่งว่า ยาเกร็กคู เป็นยาบำรุงร่างกาย ไม่สามารถบอกว่าเป็นยาบำรุง ตับไต ได้เพราะจะผิดจากที่ทางอย.รับรองไว้ คือให้มีสรรพคุณบำรุงร่างกายเท่านั้น แต่อย่างไรก็ตามอยากจะขอกล่าวถึง ท่าน อ.ทศพร ตาทิพย์ ว่าท่านเป็นผู้ที่เคยเป็นเจ้าของสูตรยาจีนที่โด่งดังมากมาก่อนในอดีต ได้มีความตั้งใจที่จะผลิตยาตัวใหม่นี้ให้ดีกว่าเก่า บรรจงคัดเฉพาะสมุนไพรเกรดเอ และให้มีปริมาณตัวยาสมุนไพรที่สำคัญๆอย่างเพียงพอต่อการสร้างสมดุลย์ร่างกายแบบองค์รวมให้ดีขึ้นให้ได้อย่างเต็มที่ และต้องมีความปลอดภัยอย่างแท้จริง สูตรการปรุงยา รวมทั้งสมุนไพรประกอบต่างๆในตัวยาเกร็กคูนี้ได้รับการควบคุมดูแลอย่างใกล้ชิด โดยที่ท่านอาจารย์ ทศพร ตาทิพย์ได้สละเวลาอย่างเต็มที่ในการดูแลด้านการผลิตยา เพื่อให้ยามีสรรพคุณที่ดีที่สุดให้ได้ มีการทดลองผลเป็นระยะเวลายาวนานเพียงพอที่จะสามารถมั่นใจได้ในสรรพคุณดังที่ได้กล่าวมาแล้ว ทั้งนี้ก็เพื่อเป็นการแสดงความกตัญญูต่อผู้บริโภค ที่เคยให้การสนับสนุนใช้ผลิตภัณฑ์ยาสมุนไพรจีนตัวเก่าของอาจารย์มาก่อนอย่างล้นหลาม มากมายทั่วทั้งประเทศ แม้ต้นทุนการผลิตจะสูงกว่าเดิมมาก แต่ก็คงราคาเดิมไว้ ยาเกร็กคูจึงได้รับสมญานามว่าเป็น"สมุนไพรกตัญญู(ต่อผู้บริโภค)"
ผู้หญิงทานได้หรือไม่
ผู้หญิงทานได้ และที่สำคัญก็คือยาเกร็กคูนี้จะเข้าไปช่วยปรับสมดุลย์ในระบบสืบพันธุ์ท่านหญิงทำให้หายจากอาการ ปวดประจำเดือน ประจำเดือนมาไม่ปกติ เป็นลิ่ม ตกขาว มีกลิ่นเหม็น มดลูกหย่อนไม่กระชับ มีบุตรยาก ผิวพรรณหยาบแห้ง ไม่ชุ่มชื้น ไม่กระจ่างใส ใฝฝ้าบนใบหน้า ไม่เนียนใส รวมทั้งอาการอื่นๆที่เป็นผลมาจากการพร่องฮอร์โมนเพศ อย่างไรก็ตามไม่ว่าจะเป็นหญิงหรือชาย เมื่อได้ทานยาเกร็กคูอย่างต่อเนื่องแล้ว จะคืนความเป็นหนุ่มเป็นสาว แข็งแรง กระปรี้กระเปร่า เหมือนย้อนวัย ชะลอวัย
ผู้ชราหรือผู้มีอายุมากๆทานแล้วจะได้ผลหรือไม่
ได้ผลแน่นอน แค่วันละ 1 เม็ดกับน้ำอุ่นก่อนนอนเท่านั้น แล้วท่านก็จะพบกับสรรพคุณของตัวยาเกร็กคูดังกล่าวข้างต้น ที่จะทำให้ท่านต้องบอกต่อๆกันไปอย่างไม่รู้จักเหน็ดจักเหนื่อย และมีความสุขในการได้บอกต่อๆกันไปเป็นวิทยาทาน
ถ้าเปรียบเทียบยาเกร็กคูกับยาตัวอื่นๆ
สำหรับคำถามนี้ จะไม่ขอเปรียบเทียบไว้ ณที่นี้ แต่ที่แน่ๆคือ ท่านอาจารย์ ทศพร ตาทิพย์ มีความตั้งใจเป็นอย่างมากที่จะปรุงสูตรยาเพื่อให้ได้ยาสมุนไพรจีนที่ดีที่สุดให้ได้ เพื่อเป็นการกตัญญูต่อผู้บริโภค และอยากจะบอกว่า ให้ลองทานดูแล้วจะไม่ผิดหวัง ยิ่งทานต่อเนื่องก็จะยิ่งดีมาก
คำแนะนำเพิ่มเติมในการทานยาเกร็กคู
ในการทานยาสมุนไพรจีนที่มีฤทธิ์ร้อนและมีสรรพคุณในการขับเส้นลมปราณ และขับเคลื่อนโลหิตให้ไหลเวียนดีขึ้นนั้น ในการทานแรกๆโดยทั่วไปจะมีอาการปวดศรีษะ เป็นไข้ ตาพร่ามัว ปวดต้นคอ หลัง เอว โคนขาพับใน น่อง เป็นต้น อาการเหล่านี้เกิดจากการปรับสภาพที่ทุกท่านจะต้องเป็น มากบ้างน้อยบ้าง เพราะถือเป็นขั้นตอนที่สำคัญที่จะต้องเกิด เพื่อให้ระบบเส้นลมปราณได้รับการทะลวงให้โล่งให้ได้ ไม่อย่างนั้นร่างกายจะไม่แข็งแรง ทางศาสตร์การแพทย์แผนจีนถือว่า การเดินลมปราณจะต้องสะดวก โล่ง ไม่ติดขัด ร่างกายจึงจะแข็งแรง ดังนั้นในการทานยาสมุนไพรจีนที่มีสรรพคุณดังกล่าวนี้ แล้วเกิดอาการเหล่านี้ขึ้น ก็ไม่ต้องตกใจ เพราะเป็นกระบวนการปกติที่เกิดแล้วจึงดี ถ้าไม่เกิดก็จะไม่ดีเท่า
จากการทดลองแล้ว การทานยาเกร็กคู ควรทานก่อนนอน คือทานครั้งละ 1 แคปซูลกับน้ำอุ่นก่อนนอนจะดีที่สุด มีประโยชน์ที่สุดต่อร่างกาย และดังที่ได้อธิบายไว้แล้ว เมื่อทานไปคืนแรก วันรุ่งขึ้นอาจมีอาการปวด และมีไข้ ......ถ้ามีอาการต่างๆดังกล่าวก็ให้หยุดทานสัก 2-3 วัน เมื่อหายดีแล้วค่อยทานต่อ แล้วจะไม่มีอาการเหล่านั้นอีก คราวนี้จะทานต่อได้ทุกคืนครั้งละ 1 แคปซูลกับน้ำอุ่นก่อนนอนโดยไม่ปวดอะไรอีกแล้ว เพราะระบบเส้นลมปราณได้โล่งไปในระดับหนึ่งแล้ว และเมื่อทานต่อเนื่องไปได้สัก 3 วัน สำหรับท่านชายโดยทั่วไปแล้วจะมีความแข็งแกร่ง หากทานต่อเนื่องไปทุกคืนสักประมาณ 2 สัปดาห์ ร่างกายจะฟิตเฟิร์มขึ้น ทำอะไรก็ไม่อ่อนเพลีย และเมื่อทานไปเป็นเดือน คนรอบข้างจะเริ่มทักถึงความเปลี่ยนแปลงของตัวเราเอง ทั้งใบหน้าที่ดูอ่อนกว่าวัย ทั้งความแข็งแรงที่ทำอะไรก็ไม่คอยจะอ่อนเพลียเลย เป็นต้น ทั้งท่านหญิงและท่านชายเมื่อทานแล้วจะมีอารมณ์ดีขึ้น หายหงุดหงิด ครอบครัวจะกระจุ๋มกระจิ๋มขึ้น 
อย่างไรก็ตามในการทานช่วงแรก ต้องผ่านขั้นตอนการปรับสภาพให้ได้เสียก่อน โดยใช้หลักการดังกล่าวคือ พอทานไปได้ 1-2 วัน จะเริ่มรู้สึกจะมีอาการคล้ายเป็นไข้ ตาพร่ามัว ปวดตามร่างกาย ตึงๆ เมื่อรู้สึกเหมือนเริ่มจะมีอาการเหล่านี้ คืนนั้นก็ไม่ต้องทาน ให้หยุดทานยาไปก่อน จนกว่าจะหาย แล้วจึงค่อยเริ่มทานใหม่ ซึ่งระยะเวลาในการปรับสภาพโดยทั่วไปจะนาน 2-3 วัน แต่ถ้าหากเริ่มรู้สึกมีอาการดังกล่าวแล้วยังทานยาต่อ จะเกิดการเบิ้ลฤทธิ์ยาขึ้น จะทำให้มีอาการปวดมากขึ้น และทำให้ระยะเวลาในการหายปวดอาจนาน 7-10 วันได้ แต่ไม่มีอันตรายใดๆ เพราะเป็นอาการปวดที่เกิดจากการขับเคลื่อนลมปราณให้โล่ง การปวดที่เกิดขึ้นไม่ได้เป็นการปวดจากการป่วย แต่เป็นการปวดจากการที่ร่างกายกำลังแข็งแรงขึ้น กระปรี้กระเปร่าขึ้น ไม่อ่อ่นเพลีย ซึ่งผู้ที่ทานจะทราบและเข้าใจคำอธิบายนี้ได้ด้วยตนเอง คือปวดแต่แข็งแรง ไม่ใช่ปวดเพราะป่วย (ซึ่งจะโทรมและอ่อนเพลียไม่มีแรง) พอหายปวดดีแล้วก็ค่อยทานต่อ 
อย่างไรก็ตามในระหว่างที่ปวดอยู่ในช่วงปรับสภาพ ก็สามารถทานยาแก้ไข้แก้ปวดได้ หรือถ้าปวดมากก็ให้เพิ่มการทานยาแก้ร้อนใน เช่น ยาขมน้ำเต้าทอง ยาขมแก้ร้อนในต่างๆ ที่ช่วยระบายอ่อนๆ หรือ ฟ้าทะลายโจร เป็นต้น ช่วยด้วยก็จะดี จะช่วยให้หายปวดเร็วขึ้น 
สำหรับท่านที่น้องชายไม่ค่อยแข็งแรง เมื่อผ่านระยะการปรับสภาพร่างกายมาแล้ว และกลับมาทานยาต่อเนื่องได้ 3 วัน น้องชายควรจะแข็งแรงแล้ว แต่ถ้าร่างกายหรือน้องชายเสื่อมโทรมมามาก นานเป็นปีๆแล้ว (เช่นผู้ที่เป็นเบาหวานมานานหลายปี) ก็อาจจะต้องใช้เวลานานเป็นสัปดาห์ คือ 1-2 สัปดาห์ น้องชายถึงจะแข็งแรงขึ้นเหมือนสมัยหนุ่มๆได้ 
ส่วนท่านหญิงเมื่อทานยาเกร็กคูแล้ว ก็จะมีอารมณ์ดีขึ้น ผิวพรรณมีน้ำมีนวลขึ้น ความผิดปกติต่างๆของระบบประจำเดือนจะหายไป มดลูกกระชับขึ้น หายตกขาว หรือมีกลิ่น ชะลอวัย
และในการทานยาก่อนนอนนั้น ก็ไม่ต้องกังวลเรื่องอาหารแสลงยาต่างๆ เพราะหลังทานอาหารไปแล้ว 2 ชม.อาหารก็จะถูกย่อยหมดแล้ว ไม่โดนตัวยาแล้ว แต่สำหรับบางท่านที่อยากจะเปลี่ยนมาทานในช่วงกลางวันบ้างในบางวัน ก็ให้ทานในช่วงท้องว่างกับน้ำอุ่น เพราะฤทธิ์ยาจะส่งผลเร็วที่สุด ภายในไม่เกิน 1 ชม.ฤทธิ์ยาก็ส่งผลแล้ว จะเริ่มรู้สึกได้ถึงความแข็งแรงและแข็งแกร่ง (ต้องท้องว่างและทานกับน้ำอุ่นจึงจะส่งผลเร็ว และได้ฤทธิ์ยาเต็มที่ ไม่ควรทานกับน้ำเย็น)