[ใหม่] ปวดฟันเนื่องจากฟันผุ 3เม็ด หายแน่นอน
รายละเอียด
ปวดฟันเนื่องจากฟันผุ 3เม็ด หายแน่นอน !!!
ค้าจัดส่ง30เท่านั้น
อาการปวดฟันเกิดได้จากหลายสาเหตุ แต่ที่พบบ่อยๆ เกิดจากฟันผุ หรือการสึกกร่อนของฟัน หรือที่เรียกกันว่า แมงกินฟัน ซึ่งเกิดรวมกับการติดเชื้อแบคทีเรีย ถ้าเป็นติดต่อกันนาน
ๆ ก็ลุกลามกินลึกลงไปในถึงรากฟัน ทำให้เกิดอาการอักเสบและปวดฟันอย่างรุนแรง ในบางรายอาจมีอาการเหงือกบวม เป็นหนอง หรือแก้มโย้
บวมได้
ขณะปวดฟัน ควรรักษาอาการปวดฟันให้ทุเลาเสียก่อน
เมื่อผู้ป่วยมีอาการปวดฟันมาพบเภสัชกรที่ร้านยา
โดยเฉพาะในรายที่มีอาการปวดรุนแรง เภสัชกรบางรายอาจแนะนำให้ไปพบทันตแพทย์ซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญเรื่องฟันได้ดูแลและแก้ปัญหาปวดฟันให้กับผู้ป่วยทันที
แต่เมื่อผู้ป่วยไปพบทันตแพทย์แล้ว
ส่วนใหญ่ทันตแพทย์จะอธิบายให้ผู้ป่วยได้เข้าใจว่า
ในขณะที่มีอาการปวดฟันอย่างรุนแรงนั้น ไม่ควรทำการอุดหรือถอนฟันทันที
จะต้องให้ยาบรรเทาอาการเหล่านี้ให้ทุเลาลงก่อน
แล้วจึงทำการรักษาดูแลทางทันตกรรมได้
ดังนั้นในขณะที่มีอาการปวดฟัน
ผู้ป่วยจึงควรได้รับการรักษาบรรเทาอาการปวดฟันให้เบาบางลงก่อนจึงไปพบทันตแพทย์
เพื่อให้การรักษาทางทันตกรรมต่อไป
ในทางปฏิบัติเมื่อผู้ป่วยกลุ่มนี้มาปรึกษาเภสัชกรชุมชน
เราจึงแนะนำให้ผู้ป่วยได้รับยารักษาอาการปวดและการอักเสบของฟัน ซึ่งใช้ยาอยู่ ๒
กลุ่มใหญ่ คือ
๑. ยาแก้ปวด
๒.
ยาต้านเชื้อแบคทีเรีย
ยาแก้ปวด
ในการใช้แก้ปวดฟัน มีระดับการปวดตั้งแต่ปวดเล็กๆ น้อยๆ จนถึงปวดมากขึ้นๆ จนถึงขั้นปว
ดรุนแรง
รบกวนการดำเนินชีวิตและการทำงานตามปกติได้ ในเด็กอาจต้องขาดเรียนเนื่องจากการปวดฟันได้
ซึ่งการเลือกชนิดของยาแก้ปวดฟันขึ้นอยู่กับระดับความรุนแรงของอาการ
ซึ่งได้จากการซักถามอาการก็พอจะทำให้ทราบระดับความปวดของผู้ป่วย
เพื่อแนะนำยาแก้ปวดฟันที่เหมาะสมกับผู้ป่วยแต่ละรายไป
ในกรณีที่เริ่มต้นปวดเล็กน้อยและไม่รุนแรง
อาจเริ่มต้นด้วยการใช้ยาพาราเซตามอล ในขนาด ๕๐๐ มิลลิกรัม/เม็ด
ในผู้ใหญ่ใช้ครั้งละ ๒ เม็ด ทุก ๔-๖ ชั่วโมง เฉพาะเวลาที่มีอาการปวดฟัน
ถ้าอาการดีขึ้นหรือหายเป็นปกติแล้ว ก็ไม่จำเป็นต้องใช้
ในบางครั้งอาการปวดอาจเป็นรุนแรงมากขึ้น
การใช้ยาพาราเซตามอลอาจได้ผลเพียงเล็กน้อย หรือไม่ได้ผลเลย
ซึ่งแสดงว่าระดับการปวดฟันมีระดับรุนแรงมากขึ้
น
ซึ่งควรเปลี่ยนตัวยาจากพาราเซตามอลไปเป็นชนิดอื่นที่ระงับอาการปวดได้ดีกว่า เช่น
แอสไพริน กรดมีเฟนนามิก ไอบูโพรเฟน เป็นต้น
ยากลุ่มนี้มีฤทธิ์แก้ปวดได้ในระดับปานกลาง
มีการนำไปใช้บรรเทาอาการปวดในโรคต่างๆ เช่น ปวดหัว ปวดข้อ ปวดกล้ามเนื้อ
ซึ่งรวมถึงอาการปวดฟันด้วย นอก จากนี้ ยากลุ่มนี้ยังมีฤทธิ์ลดไข้
แก้ตัวร้อนได้ผลดีอีกด้วย
ในผู้ใหญ่ควรเลือกใช้ยาแอสไพรินชนิดเม็ดละ
๓๒๕ หรือ ๕๐๐ มิลลิกรัม ครั้งละ ๒ เม็ด วันละ ๓ ครั้ง หลังอาหารทันที เช้า กลางวัน
เย็น
ยาแก้ปวดกรดมีเฟนนามิก
ควรใช้ชนิดเม็ด ๕๐๐ มิลลิกรัม ครั้งละ ๑ เม็ด (หรือชนิดเม็ดขนาด ๒๕๐ มิลลิกรัม
จำนวน ๒ เม็ด) วันละ ๓ ครั้ง หลังอาหารทันที เช้า กลางวัน เย็น
ส่วนยาไอบูโพรเฟน
ควรใช้ชนิดเม็ด ๔๐๐ มิลลิกรัม (หรือชนิดเม็ดขนาด ๒๐๐ มิลลิกรัม จำนวน ๒ เม็ด)
วันละ ๓ ครั้ง หลังอาหารทันที เช้า กลางวัน เย็น
เนื่องจากยาแก้ปวดกลุ่มนี้มีฤทธิ์เป็นกรด
ในการใช้จึงควรกินหลังอาหารทันที เพื่อช่วยลดการระคายเคืองกระเพาะอาหาร
และไม่ควรกินติดต่อกันนานๆ เพราะจะทำให้เกิดเป็นโรคแผลในกระเพาะอาหารได้
เมื่ออาการหายดีแล้ว ก็ควรหยุดยาได้เลย
นอกจากยาแก้ปวดที่ได้กล่าวไปแล้ว
ยังมียาแก้ปวดอีกกลุ่มหนึ่งที่เป็นอนุพันธ์ของฝิ่นซึ่งออกฤทธิ์แก้ปวดฟันชนิดรุนแรงหรือปวดมากๆ
ยิ่งขึ้น แต่ยากลุ่มนี้ไม่มีฤทธิ์ลด
ไข้แก้ตัวร้อนเหมือนยา
กลุ่มแรก แต่เนื่อง จากยากลุ่มนี้เป็นอนุพันธ์ของฝิ่น จึงมีฤทธิ์เสพติดถ้า มีการใช้ติดต่อกันนาน ในทางปฏิบัติจึงควรอยู่ภายใต้ดุลยพินิจของ
แพทย์หรือทันตแพทย์ในการสั่งจ่ายยากลุ่มนี้